รับอรุณวันใหม่ด้วยบทความที่มีค่าและมีประโยชน์มากมายสำหรับคนทุกวัยเพื่อเป็นแนวทางในการดูแลรักษาสำหรับคนที่เป็นงูสวัด ตัวผู้เขียนได้มีโอกาสสัมผัสโรคนี้ด้วยตนเอง ตัวผู้เขียนไม่เคยมีประสบการณ์ในการเป็นโรคนี้เลยนะค่ะได้ยินได้ฟังจากคุณแม่ท่านเล่าให้ฟังเท่านั้น ว่าหากเป็นโรคนี้เมื่อมันลามไปชนกัน
เมื่อไหร่จะถึงกับความตายซึ่งมันเป็นเรื่องที่เชื่อกันมาตั้งแต่โบราณแล้ว หลังจากที่ตัวผู้เขียนได้เป็นเองและได้รับข้อมูลจากคุณหมอที่ดูแลนั้นจริงๆ ก็ได้รวบรวมข้อมูลได้และหาข้อสรุปได้เลยว่ามันเกิดจากการที่ผู้ป่วยไม่สามารถทนพิษความเจ็บปวดได้มากกว่าเท่านั้น ตัวผู้เขียนทราบว่าความเจ็บปวด และการปวดแสบปวดร้อนของบาดแผลนี้ค่อนข้างรุนแรง ปกติตัวผู้เขียนจะทนกับที่เจ็บปวดหรืออาการต่างๆได้พอสมควร แต่โรคงูสวัดนี้ความเจ็บปวดที่เกิดจากการสูญเสียของประสาทปลายผิวหนังที่มันถูกทำลายนั้นมันช่างค่อนข้างรุนแรงพอสมควรขนาดยานอนหลับยังเอาไม่อยู่กันเลยนะค่ะ ตัวผู้เขียนได้มีโอกาสศึกษาข้อมูลบางส่วนจากคุณหมอที่ชำนาญทางด้านนี้ก็ทราบว่า ในปัจจุบันเราเริ่มมีวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส ได้ดีพอสมควรมันสามารถจัดการเชื้อไวรัสตัวนี้ได้อย่างแน่นอน ส่วนวัคซีนที่จะมาฆ่าเจ้าเชื้อไวรัสของงูสวัดคงจะมีปีหน้า
ซึ่งต่อจากนี้ต่อไปเราก็ไม่ต้องกังวลกันแล้วนะค่ะ เรามาสังเกตการเริ่มต้นการเป็นโรคนี้กันนะค่ะ หากท่านผู้อ่านมีอาการปวดแสบปวดร้อนโดยไม่มีสาเหตุละก้อ สังเกตผื่นแดงที่เกิดขึ้นและมีต่มใสๆขึ้นเป็นผื่นนะค่ะหากมีอาการเช่นนี้รีบไปหาหมอนะค่ะอย่าปล่อยไว้เหมือนกับผู้เขียนที่ลองให้เจ้าโรคนี้ลุกลามไปมากจนน่ากลัวเหมือนตัวผู้เขียนเอง สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะต้องการพิสูจน์ให้รู้ว่า โรคนี้เกิดขึ้นมาแล้วเรารักษาแบบโบราณจะเป็นเช่นไร ตัวผู้เขียนลองอยู่4วัน บอกตรงๆว่าทนไม่ไว้จริงๆค่ะมันลามได้เร็วมากจากหน้าอกไปจนถึงกลางหลัง ที่ชาวบ้านเขาเรียกว่าลามไปครึ่งตัวเลยค่ะ จนต้องไปหาหมอแผนปัจจุบันจัดการเจ้าเชื้อไวรัสจอมดื้อนี้ซะ บอกตรงๆค่ะว่าอาการปวดของมันนี้สุดยอดจริงๆค่ะยิ่งเมื่อเวลาโดนความร้อนยิ่งร้ายใหญ่เพราะเมื่อเหงื่อออกแล้วไปโดนบาดแผลมันยิ่งร้ายใหญ่ ตัวผู้เขียนใช้เวลาที่เป็นโรคนี้โดยประมาณ 3 สัปดาห์ได้ค่ะ แต่ยังไม่หายนะค่ะตอนนี้จะเป็นการเกิดตกสเก็ดที่บาดแผลแล้ว แต่ก็ต้องใช้ยาบำรุงระบบปลายประสาทผิวหนังที่สูญเสียไปให้กลับมาดีขึ้นนะค่ะ เพราะยังมีอาการเจ็บอยู่ที่บาดแผลที่หายแล้ว อาการนี้จะเป็นการเจ็บแป๊บๆขึ้นมาอยู่เรื่อยๆค่ะ คุณหมอเธอบอกไว้ว่าเราเป็นอายุมาก
แล้วต้องใช้เวลาในการที่จะให้ประสาทปลายผิวหนังกลับสู่สภาพเดิมต้องใช้เวลาอย่างมากค่ะ ตัวผู้เขียนเชื่อแล้วว่า ทำไมคนอายุมากๆสมัยก่อนถึงได้เสียชีวิตกับเจ้าโรคนี้กันเพราะทนความเจ็บปวดไม่ได้กันมากกว่า อ้อมีอีกอย่างหนึ่งที่เราต้องคอยสนใจด้วยนอกจากการหาหมอแล้ว ยังต้องดูแลเรื่องอาหารการกินด้วยนะค่ะ อย่างทานของมัน ของทอด ข้าวเหนียว หรือไข่ เพราะมันเป็นการไปกระตุ้นโรคนี้ด้วยเช่นกันค่ะ ตัวผู้เขียนทานข้าวต้มกับซีอิ้ว และหมูหยอง ผัก และผลไม้ มาประมาณ3สัปดาห์ที่เป็น มันช่างสุดยอดค่ะ น้ำหนักลดลงโดยอัตโนมัติเลยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น