ผู้หญิงที่โชคยังเข้าข้างรอดตายอย่างหวุดหวิดจากเหตการณ์จลาจล
เผาเมืองในอังกฤษ เธอตัดสินใจกระโดดออกมาทางหน้าต่าง
โชคดีที่ลงสู่อ้อมแขนของผู้รอรับที่มีทั้งตำรวจปราบจลาจล
พนักงานดับเพลิงและคนที่ยืนมุง ลงสู่พื้นด้วยความปลอดภัย
แม้จะตัวสั่นเทา
ภาพผู้หญิงที่กระโดดหนีตายลงมาจากหน้าต่างชั้น 2 ของตึกที่กำลังไฟไหม้บนถนนเซอร์เรย์ในเหตุจลาจลของอังกฤษ ซึ่งเป็นช็อตเด็ดที่โด่งดังจนสื่อตามหาตัวให้ควั่กว่าเป็นใคร เฉลยแล้วในเวลาต่อมา
โมนิก้า คอนซีก อายุ 32 ปี เป็นสาวต่างชาติจากโปแลนด์ เพิ่งย้ายมากรุงลอนดอนกับพี่สาว เมื่อเดือนมี.ค. ด้วยความหวังว่าจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในเมืองที่แสนจะศิวิไลซ์แห่งนี้ หลังพี่สาวอยู่ที่นี่มาแล้ว 5 ปี
ในเหตุระทึกครั้งนี้ สาวโปแลนด์เล่าว่า ยังหวาดผวาไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะคิดว่าจะต้องจบชีวิตในกองเพลิงแน่ๆ
พร้อมบรรยายว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงค่ำ ตนนอนดูข่าวจลาจลในอังกฤษทางทีวีและพี่สาวโทร.มาเตือนว่าอย่าออกไปไหน จึงเปลี่ยนชุดเตรียมจะนอน
ขณะเดียวกันนั้น กลุ่มวัยรุ่นทุบกระจกร้านค้าที่อยู่ใต้แฟลตและจุดไฟเผา ไฟลามขึ้นมาทั้งตึก จนหนีไปไหนไม่ได้
เมื่ออับจนหนทางโมนิก้าชะโงกไปที่หน้าต่าง เห็นคนมุงกันอยู่และมองขึ้นมาที่ตน จึงตะโกนขอความช่วยเหลือ กลุ่มคนด้านล่างกลับตะโกนบอกให้ตนกระโดด แต่เพราะเพิ่งหัดเรียนภาษาอังกฤษ จึงฟังไม่ค่อยออก
โชคดีมีคนโปแลนด์ที่อยู่ละแวกบ้านมาช่วยพูดจึงพอเข้าใจ จากนั้นพี่สาวและพี่เขยกลับมาถึง ร่วมวงตะโกนบอกให้กระโดด ตนไม่มีทางเลือก เพราะในห้องร้อนขึ้นเรื่อยๆ และควันตลบไปทั่ว จึงโผล่ออกไปนอกหน้าต่าง
ชาวบ้านด้านล่างไม่เชื่อคำสั่งของเจ้าหน้าที่ซึ่งบอกให้ถอยห่าง บางคนไปหาหมอนหาเสื่อมาปู เพื่อป้องกันโมนิก้าตกลงมาพลาดเป้า จากนั้นหญิงสาวต่างถิ่นกระโดดลงสู่อ้อมแขนของผู้รอรับที่มีทั้งตำรวจปราบจลาจล พนักงานดับเพลิงและคนที่ยืนมุง ลงสู่พื้นด้วยความปลอดภัย แม้จะตัวสั่นเทา
บีต้า พี่สาวของโมนิก้า วัย 37 ปี กล่าวว่า น้องสาวเสียขวัญมาก คงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะดีขึ้น เราต่างเคยคิดว่าที่นี่เป็นประเทศที่มีอารยธรรม ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
ส่วนอามาร์ ชาราบี นักศึกษาวิชาบริหารชาวอินเดีย หวานใจของโมนิก้า กล่าวว่า แฟนสาวเครียดมาก ผวาหนักขนาดไม่กล้าออกจากบ้าน
เวลานี้สาวโปแลนด์กลายเป็นคนเงียบขรึมจนต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อเข้ารับการบำบัดจิตใจจากภาวะซึมเศร้าเพราะจมดิ่งอยู่กับความหวาดกลัวและเสียใจ
โชคดีมีคนโปแลนด์ที่อยู่ละแวกบ้านมาช่วยพูดจึงพอเข้าใจ จากนั้นพี่สาวและพี่เขยกลับมาถึง ร่วมวงตะโกนบอกให้กระโดด ตนไม่มีทางเลือก เพราะในห้องร้อนขึ้นเรื่อยๆ และควันตลบไปทั่ว จึงโผล่ออกไปนอกหน้าต่าง
ชาวบ้านด้านล่างไม่เชื่อคำสั่งของเจ้าหน้าที่ซึ่งบอกให้ถอยห่าง บางคนไปหาหมอนหาเสื่อมาปู เพื่อป้องกันโมนิก้าตกลงมาพลาดเป้า จากนั้นหญิงสาวต่างถิ่นกระโดดลงสู่อ้อมแขนของผู้รอรับที่มีทั้งตำรวจปราบจลาจล พนักงานดับเพลิงและคนที่ยืนมุง ลงสู่พื้นด้วยความปลอดภัย แม้จะตัวสั่นเทา
บีต้า พี่สาวของโมนิก้า วัย 37 ปี กล่าวว่า น้องสาวเสียขวัญมาก คงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะดีขึ้น เราต่างเคยคิดว่าที่นี่เป็นประเทศที่มีอารยธรรม ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
ส่วนอามาร์ ชาราบี นักศึกษาวิชาบริหารชาวอินเดีย หวานใจของโมนิก้า กล่าวว่า แฟนสาวเครียดมาก ผวาหนักขนาดไม่กล้าออกจากบ้าน
เวลานี้สาวโปแลนด์กลายเป็นคนเงียบขรึมจนต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อเข้ารับการบำบัดจิตใจจากภาวะซึมเศร้าเพราะจมดิ่งอยู่กับความหวาดกลัวและเสียใจ
ที่มา ข่าวสด
วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7563 ข่าวสดรายวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น