อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณผู้อ่าน เช้านี้ยังอากาศยังอบอุ่นอยู่นะค่ะ เมื่อวานนี้บังเอิญตัวผู้เขียนได้ทานอาหารเย็นและได้ทานข้าวแช่ชาววัง ซึ่งจำได้ว่าไม่เคยทานนานมากๆแล้วค่ะ ชอบทานเพราะเครื่องเขียงออกหวานๆแต่ที่ชอบคือน้ำเย็นที่ใส่ในข้าวแช่กินหอมมะลิ ต้องขอบอกชอบมากๆ ทานเสร็จมานึกไปนึกมาวันที่ตัวผู้เขียนได้ไปทำอาหารให้เหล่าพลทหารทานจำได้ไหมค่ะเมื่อบทความที่แล้ว สิ่งที่ทำในผัดกระเพราเนื้อที่ทางนั้นขาดไม่ได้ และเป็นที่ให้ตัวผู้เขียนสงสัยว่าทำไมเขาต้องใส่ด้วยก็คือ ใบยี่หร่า พลทหารไม่ได้บอก บอกเพียงแต่ว่าหมวดให้ใส่ เช้านี้จึงทำให้ตัวผู้เขียนเกิดความสงสัยว่าไอ้เจ้ายี่หร่ามันมีสรรพคุณอะไร และเราก็ไม่เคยเห็น ใบเขาคล้ายๆ ใบกระเพราเหมือนกันแต่ใบใหญ่กว่า แต่หอมคล้ายๆใบแมงลัก
ผู้เขียนได้อ่านสรรพคุณของเจ้าใบยี่หร่า สามารถขับเหงื่อและลมได้ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และระดูขาวของคุณผู้หญิงได้ด้วยค่ะ ไม่เชื่อเลยนะค่ะว่า พืชสมุนไพรเราจะมีประโยชน์ได้ขนาดนี้นะ และท่าทางด้านการปรุงแต่ง คุณยี่หร่าสามารถดับกลิ่นคาวของเนื้อได้เป็นอย่างดี คุณผู้อ่านท่านใดมีความรู้และสรรพาคุณของยี่หร่าเพิ่มเติม บอกเล่าให้ฟังได้นะค่ะ อ้อเรามาพูดถึงข้าวแช่ชาววังกันต่อนะค่ะ
ตัวผู้เขียนเคยผ่านนานมากแล้วค่ะ ถ้าจำไม่ผิด ร้านข้าวแช่ชาววังอยู่ แถวถนนพระราม 6 ทางเข้าโรงพยายบาลวิชัยยุทธหรือเปล่า ร้านนั้นอร่อยมาก แต่บางคนเขาจะไม่ชอบทานข้าวแช่น้ำแข็งเย็นๆ เมื่อคืนตัวผู้เขียนได้ให้ลูกสาวทาน คุณแม่ท่านเลยเล่าประวัติข้าวแช่ให้เรา2คนฟังว่าสมัยก่อน เมื่อก่อนในวังระดับลูกท่านหลานเธอ คุณหญิงคุณนาย ถึงจะได้ทานกันนะ และเครื่องเขียงที่ทานกับข้าวแช่จะออกสไตล์หวานๆทั้งหมด เหมือนเราทานข้าวต้มนั้นแหละ แต่เพียงใส่น้ำเย็นและกลิ่นหอมของดอกมะลิเข้าไปให้น่าทานมากขึ้น คุณแม่ท่านบอกว่า ถ้าคนสมัยก่อนเขาจะนำข้าวสวยมาใส่น้ำเย็นเท่านั้น หากคุณผู้อ่านมีผู้สูงอายุที่บ้านก็คงพอจะทราบบ้างนะค่ะ อย่างที่เมื่อคืนนี้ที่ทานกันที่บ้านมีเครื่องเขียง5อย่างที่จำได้ก็จะเป็นอะไรบ้างอย่างบดละเอียดหวานๆและปั้นเป็นลูกกลมๆ ชุบแป้งบางๆ ,หมูหวานเป็นเส้นๆ, หมูสับเผ็ดนิดๆปั้นเป็นก้อนห่อด้วยกะหล่ำชุบไข่, มะพร้าวเป็นเส้นฝอยหวานๆ เพียงเท่านี้ ตอนนี้ตัวผู้เขียนเลยเกิดความสงสัยว่า องค์ประกอบของอาหารประเภทนี้ต้นตำรับดั้งเดิมคืออะไรบ้าง บางตำราก็แบบหนึ่ง บางตำราก็อีกแบบหนึ่ง ใครชวนผู้เขียนหาหน่อยนะค่ะ แบ่งปันความรู้กัน แล้วสาเหตุอะไรถึงไม่ค่อยมีคนเปิดร้านอาหารขายข้าวแช่ชาววัง และก็ไม่มีใครอนุรักษ์ความเป็นไทยครั้งบรรพบุรุษเอาไว้กันนะค่ะ ทำให้ตัวผู้เขียนเริ่มสนใจ เรื่องนี้ซะแล้วซิค่ะ อยากเปิดร้านอาหารข้าวแช่เสียแล้วซิ จากเรื่องอาหารนี้ ทำไมตัวผู้เขียนเกิดความคิดว่า ทำไมสูตรอาหารของคนสมัยโบราณ หายไปไหนกันหมดไม่ค่อยมีใครอนุรักษ์ไว้ นอกเหนือตำรับตำราอาหารที่วางขายตามร้านหนังสือชั้นนำกันแล้ว แต่ในทางปฏิบัติไม่ค่อยมีใครทำ อาจจะเป็นรสชาดของต้นสูตรที่แท้จริงไม่ค่อยมีใครทราบกันใช่ไหมค่ะ ส่วนใหญ่เราจะทำตามเมนูออกมาก็คิดว่ารสชาดนั้นคือรสชาดดั่งเดิม ไม่มีใครทราบว่ารสชาดดั่งเดิมแท้จริงต้องเป็นเช่นไร ถึงทำให้ร้านอาหารไทยบางร้านที่มีสูตรเด็ดขายแพงกันมากนะค่ะ ยิ่งถ้าเป็นร้านอาหารไทยในต่างประเทศยิ่งแล้วอาหารไทยเราแพงมากๆ
ตรงนี้ไงค่ะเราถึงได้เห็นคุณค่าของสื่งที่เรามีมันเพิ่มคุณค่าของความเป็นไทยของเราไว้อย่างดีเยี่ยม เช่นเดียวกับผ้าไหมไทยเรา คนไทยไม่ค่อยนิยมแต่ต่างชาติกับนิยมชมชอบของเรามากมายมหาศาล และยิ่งไปอยู่ในมือต่างชาติมันกลับกลายว่ามูลค่าของนั้นมีค่ามากจริงๆ อย่างเช่นการแกะสลักพืช ผัก ต่างๆ เราๆจะได้เห็นก็ตามโรงแรมกันใช่ไหมค่ะ แพงมาก กว่าจะแกะสลักกันได้แต่ละอย่างสุดๆ กันจริงๆ ยากมาก ตัวผู้เขียนเคยแกะตอนเด็กรุ่นๆ คุณแม่ท่านสอนอยู่เหมือนกันค่ะ แต่เป็นอะไรที่ผู้หญิงกุลสตรีเขาทำกัน ตัวผู้เขียนไม่ค่อยชอบนั่งพับเพียบเรีนบร้อยทำอะไรสไตล์นี้นะค่ะ ดูมันช่างต้องใช้ความอดทนมากๆ แต่ตอนนี้เราเริ่มมีความคิดแล้วว่า สิ่งเหล่านี้มันมีคุณค่าน่าจรรโลงและอนุรักษ์ให้คู่กับคนไทยไปรุ่นลูกรุ่นหลานนะค่ะ เพื่อไม่ให้วิชาความรู้ที่อยู่คู่ควรกับคนไทยหายไปนะค่ะ ตัวผู้เขียนยังนึกถึงสูตรต่างๆที่ทางบ้านของตัวผู้เขียนเคยเปิดร้านอาหารไทย ถ้าเป็นสมัยนี้ บรรพบุรุษเราอยู่ตัวผู้เขียนคงเปิดร้านอาหารแล้วหละค่ะ คุณผู้อ่านหากมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ แบ่งปันกับมาฝากผู้เขียนกันบ้างนะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น