วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554
ครอบครัวที่อบอุ่น
แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ที่สว่างไสวพร้อมอากาศเย็น
อ่อนๆในเช้าวันใหม่ของเดือนเมษาฯ ผิดคลาด ฉันคิด
วันมันคงร้อนระอุรับเดือนเมษาฯนะค่ะ แต่มันเป็นเช้าที่
อบอุ่นเสียจริงๆ หากมีใครสักคนอยู่เคียงข้างเราในเช้านี้
กับอ้อมไออุ่นของคนที่เรารักเขาและเขารักเรา หวานไป
หรือเปล่าเอ๋ย สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่าน เมื่อเช้าอากาศดีจังนะ
ค่ะ ไม่อยากลุกไปทำงานเลย อากาศดีๆเมื่อเช้าได้หอม
หน้าผากสาวน้อยของฉันก่อนมาทำงานแล้วมีความสุข
พร้อมทั้งกำลังใจต่อสู้ชีวิตได้สบายเลยค่ะ หากใครที่ใช้
ชีวิตเหมือนตัวผู้เขียนแล้วอย่าไปกังวล หรือท้อถอยกับ
ชีวิตที่ต้องสู้ลำพังเพียงคนเดียวนะ เราต้องต่อสู้เพื่อตัว
น้อยของเราให้เขาถึงจุดหมายปลายทางและช่วยกันส่ง
เธอและเขา ทั้งหลายขึ้นฝั่งกันอย่างปลอดภัยนะค่ะ วันนี้ตัวผู้เขียนได้มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณแม่ท่านหนึ่งที่โรงเรียนของลูกสาว เธอผู้นี้ใช้ชีวิตแบบสู้คล้ายกันกับตัวผู้เขียน แต่เธอจะลำบากกว่าตนเรื่องหน้าที่การงานเท่านั้นที่สร้างรายได้ไม่มากเท่าไหร่ แต่เธอก็สู้ชีวิตเธอจริง เธอเล่าว่าเมื่อก่อนลูกจะperfect ครบ พ่อแม่ลูก แต่บังเอิญสามีเธอเสียชีวิต เธอแทบหมดความหวังดีที่มีงานทำ และใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย ลูกสาวเธอก็น่ารักรู้จักช่วยงานบ้านบ้าง
เล็กน้อยกับคุณแม่ของเธอ ตัวผู้เขียนเข้าใจความรู้สึกเช่นนั้นดีค่ะว่าเป็นเช่นไร แต่ต้องยอมรับนะค่ะว่าผู้หญิงสมัยใหม่ต่อสู้ชีวิตเพียงรำพังเป็นส่วนใหญ่เท่าที่เห็น โดยเฉพาะผู้หญิงที่ทำงานนอกบ้านมักจะมีความมั่นใจสูงว่าอย่างไรก็คงไม่ปล่อยให้ครอบครัวอดอยากอย่างแน่นอน ผู้หญิงสมัยนี้มีความอดทนและเข้มแข็งมากขึ้น สู้ชีวิตมากขึ้น บางครั้งตัวผู้เขียนก็มานั่งวิเคราะห์และมองมุมกลับนะค่ะ ผู้ชายในปัจจุบันนี้อยู่เป็นโสดกันมากขึ้นเพราะอะไรไม่ทราบ ผู้หญิงก็เช่นเดียวกัน ตัวผู้เขียนคิดว่าสังคม และความเจริญเติบโตของชีวิตมีการพัฒนาและเปลี่ยนไป การดิ้นรนของชีวิตมากขึ้นจึงทำให้จิตใจของคนเราเข้มแข็งขึ้น มีความมั่นใจตนเองสูงขึ้น และสังคมปัจจุบันผู้ชายและผู้หญิงทัดเทียมกันเพราะผู้หญิงเราทำงานมากขึ้น มีการศึกษามากขึ้นจึงเป็นสาเหตุที่มาที่ไปซะส่วนใหญ่ตัวผู้เขียนก็เป็นเช่นนั้นว่า ในเมื่อเรามีหน้าที่การงานที่ดี มีการศึกษาที่ดี หากเกิดปัญหาที่ไม่สามารถสรุปได้ในชีวิตครอบครัวเราสามารถที่จะดำเนินชีวิตของเราเพื่อปกป้องสิ่งที่เรารักมากที่สุดและสำคัญกับเรามากที่สุดในชีวิตกันได้ เราสรุปไม่ได้ทุกครอบครัวหรอกนะค่ะว่าใครผิดใครถูก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตเราเขาไม่ได้ทำผิด เขาและเธอ มีความบริสุทธิ์ แต่ต้องมารับภาระและปัญหาที่เกิดขึ้น หากเรามองไปและคิด ตัวผู้เขียนเคยคิดว่าเราเห็นแก่ตัวไหมที่ทำให้ชีวิตน้อยเขาด่างพร้อยไปหรือเปล่า แต่บางปัญหาหากถ้าไม่เกิดขึ้นกับผู้หนึ่งผู้ใด มันอยากที่จะรู้กัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นและผ่านมาเราคิดและไตร่ตรองแล้วว่ามันดีที่สุด ตัวผู้เขียนคิดว่ามันเป็นความคิดผู้หญิงรุ่นใหม่คิดกันในปัจจุบันนะค่ะ แต่ในความเป็นสุด
ท้ายเมื่อถึงบั้นปลายชีวิตและเราเริ่มเข้าสู่จุดหนึ่งแห่งความโหยหาทุกเพศทุกวัย จะมีความรู้สึกเช่นนี้กันทุกคนในภาพที่ปรากฎ ตัวผู้เขียนก็เริ่มมีความรู้สึกเช่นนั้น และคิดว่าคุณผู้อ่านที่อยู่ในสภาพเดียวกันคงมีความรู้สึกเช่นนั้นใช่ไหมค่ะ โหยหาความอบอุ่นที่หายไป เมื่ออยู่เพียงตามลำพัง เรามาย้อนหลับไปว่า ทำไมถึงไม่ทำชีวิตครอบครัวให้มีความสุขได้ แต่หากเราใช้สติ สมาธิ และปัญญาให้บังเกิด เราอยู่ได้นะค่ะ สร้างความสุขให้เกิดขึ้นในชีวิตของเราเมื่อต้องอยู่คนเดียว เพื่อคนที่รักข้างกายเราตัวน้อยๆทั้งหลาย บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมและสร้างความดีงาม แบ่งปันและเป็นผู้ให้ ความสุขที่เกิดขึ้นมันอาจจะมากมายมหาศาลและเป็นความสุขที่บริสุทธิ์ที่เราจะได้รับอย่างอิ่มใจ และมีคนรอบข้างมอบความสุขเหล่านั้นให้คุณนะค่ะ มันอาจจะไม่ใช่ความสุขที่เราต้องการ แต่หากเราสามารถทำได้และ ยืนหยัดด้วยสิ่งเหล่านี้มันจะทำให้ชีวิตของเรามีค่ามากมายค่ะ เริ่มกันตั้งแต่วันนี้แล้วท่านจะรับรู้สิ่งที่เราหวนหาแต่อาจจะไม่ใช้ความสุขที่แท้จริง สิ่งที่ผู้เขียนแนะนำนั้น ตัวของผู้เขียนเริ่มทำแล้วค่ะ ความรู้สึกที่ได้รับมันสงบและเป็นสุขไม่ดิ้นรนที่จะไขว่ขว้ามาจนเราเจ็บปวดอีก ลองดูนะค่ะ เริ่มต้นกันทีละน้อยและสิ่งที่ท่านได้รับมันสุขจริงๆค่ะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น