สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านแปลกไปใช่ไหมค่ะสำหรับชื่อเรื่องที่ขึ้นต้นวันนี้ดู In Love มากใช่ไหมค่ะ บังเอิญมีเรื่องราวสนใจและสงสัยอยู่ในตัวว่าทำไมความรักมันถึงเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย บังเอิญมีละครอยู่เรื่องหนึ่งที่ดังมากที่เป็นความรักต่างวัยระหว่างสินจัยกับบี้(สุกิจ) เห็นลูกๆเล่ากัน ก็เลยอยากรู้ว่าเรื่องราวเป็นเช่นไรถึงได้มีคนติดตามมากมายเช่นนั้น พอได้ดูตัวผู้เขียนนึกย้อนอดีตไปเมื่อตอนตนเองอายุ15 มีเด็กรุ่นน้องเป็นลูกชายของเพื่อนคุณแม่ เด็กผู้ชายคนนั้นอ่อนกว่า4-5ปีได้กระมั้งถ้าฉันจำไม่ผิดใหม่ที่มาที่บ้านตัวผู้เขียนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กผู้ชายคนนั้นแอบชอบเรา ความที่เราสอนหนังสือเขาทุกวัน เขาจะมาอยู่กับฉันทั้งวันเมื่อมีเวลาว่าง จนคนที่บ้านเขาแซวกัน (ภาษาวัยรุ่นนะ) และคนที่บ้านเราก็แซวเช่นเดียวกันฉันนึกภาพที่เด็กผู้ชายคนนั้นขึ้นมาได้ว่าเขาเหมือนกับละครเรื่องนี้มาก
พอฉันรู้ฉันก็เริ่มห่างๆเด็กมากขึ้นเป็นเพราะเราไม่ได้คิดเรื่องความรักในตอนนั้นคิดแต่จะเรียนให้จบอย่างเดียวเท่านั้น และประกอบกับตอนรุ่นๆตัวผู้เขียนยังซนและสนุกกับเพื่อนๆกันเลยไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้ พอมานะปัจจุบันนี้เราจะเห็นรักต่างวัยมากขึ้น ตัวผู้เขียนก็มักจะได้ยินได้เห็นบ่อยมาก และยังได้มีโอกาสพูดคุยและถามเด็กกหนุ่มสมัยใหม่นี้ว่ามีความคิดเช่นไรถึงได้ขอบผู้หญิงที่ต่างวัยกว่า สิ่งที่ได้รับข้อมูลมานั้นเหมือนกันอยู่ประโยคหนึ่งก็คือความเข้าใจซึ่งกันและกัน และอีกอย่างสิ่งที่เด็กหนุ่มชอบผู้หญิงอายุมากกว่าคือความอบอุ่นที่ได้รับมันก็หน้าแปลกนะค่ะ ว่าสังคมสมัยนี้มีรักต่างวัยมากเหลือเกิน และเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่เขามีความคิดว่าหากเรามีความรักที่บริสุทธิ์มอบให้ใครคนหนึ่งพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้แค่สื่อหรือสายตาใครที่จะมองกลับมา ตัวผู้เขียนก็เคยมีรุ่นน้องมาชอบมากมายแต่เราจะปฏิเสธตลอดว่าเราไม่ชอบคบเด็กกว่าเท่านั้น เราคิดว่าความรักที่เป็นจุดยืนของชีวิตแต่ละบุคคลมีไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง ต่างความคิดต่างเหตุผลกันไป เรามาพูดถึงความรักต่างวัย ตัวผู้เขียนถามกับตัวเองเสมอว่ายังมีอีกเหรอที่ความรักมันจะเกิดขึ้นกับคนต่างวัย เราๆเคยได้อ่านข่าวคราวกันบ้างนะค่ะ มีลงหนังสือพิมพ์หรือออกข่าวกันบ่อยๆ ผู้ชายอายุห่างจากผู้หญิง20 ปี
ผู้หญิงห่างจากผู้ชาย30ปีก็มี ฟังดูเหมือนมันน่าเกลียด แต่เรามามองมุมให้เป็นกลางกันว่า หากเรื่องราวเหล่านี้มันเกิดกับใครขึ้นมา มันคงยากที่จะอธิบายกันนะค่ะ หากเราไม่มองความน่ารังเกียจกับบุคคลเหล่านั้นมันก็ช่างไม่ยุติธรรมกัน เราที่เป็นผู้ชม หรือ ผู้ฟังคงต้องทำตัวให้เป็นกลางกันนะค่ะ ปล่อยให้ดอกรักนั้นบานไปตามธรรมชาติที่มันได้ออกดอกบานสะพรั่งและอบอวลไปด้วยความสุขของคนทั้งสองกันไปนะค่ะเพราะชีวิตคู่ของมนุษย์นั้นยากแท้หยั่งถึง ไม่มีอะไรที่จะประกันได้หรอกว่าชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แบบนั้นมันต้องดู perfect ไปทั้งหมดนะค่ะที่สังคมที่ยึดติดกับค่านิยม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น