หรือต้านออกซิเดชั่น ช่วยต้านมะเร็ง ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง และยังช่วยลดไขมัน น้ำตาลในเลือด
ช่วยให้ช่องปากสะอาดไร้กลิ่น ยับยั้งแบคทีเรียในช่องปาก และยังช่วยลดการอักเสบ
การดื่มชา เป็นวัฒนธรรมของชาวเอเชีย รวมถึงไทยด้วยที่จะรับเอาวัฒนธรรมนี้มาใช้ การดื่มชาควรดื่มชาอุ่นๆอย่างน้อย 4-5 ถ้วย ต่อวันเพื่อสุขภาพ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชาหลังอาหาร ควรดื่มหลังจากรับประทานอาหารไปแล้ว 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมสารอาหารไปก่อนโดยเฉพาะวิตามินบี และธาตุเหล็ก เพราะสารแทนนินที่อยู่ในน้ำชา จะขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก ทำให้การดูดซึมลดลงไปถึง 85-88 เปอร์เซนต์ และสารแทนนินยังส่งผลต่อการดูดซึมวิตามินบีให้ลดน้อยลงด้วย
ประโยชน์ของการดื่มชา
1. ประโยชน์ประการแรกของการดื่มน้ำชาเป็นประจำคือ
เราจะได้รับสารคาเฟอีนจากใบชา
ซึ่งสารคาเฟอีนนี้จะออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
ขยายหลอดเลือด ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ป้องกันโรคหัวใจตีบตัน
บรรเทาอาการเจ็บหน้าอก รักษาโรคหวัดและอาการปวดหัวได้
2. นอกจากสารคาเฟอีนแล้ว
ในใบชาก็ยังมีสารโพลิฟินอล (Polyphenol) คาร์โบไฮเดรท และกรดอะมิโน เมื่อสารเหล่านี้ทำปฏิกิริยากับน้ำลาย
ก็จะช่วยกระจายความร้อนในร่างกายออกไปพร้อมๆ กับขับสารพิษในร่างกายออกไปด้วย
ส่วนสารอะโรมาติคก็จะช่วยระงับกลิ่นปาก และป้องกันฟันผุได้ด้วย
3. ช่วยฆ่าเชื้อโรค ลดอาการอักเสบ
และช่วยสมานแผล ตามตำรายาจีนยังบันทึกไว้ว่า น้ำชาชงแก่ๆ 1 ถ้วย ช่วยรักษาโรคบิดได้เป็นอย่างดี
5. ส่วนชาฝรั่งนั้น มีวิตามินเคอยู่มาก
6. ชาอูหลง สามารถช่วยลดความอ้วนและอาการท้องผูก
โดยจะช่วยละลายไขมันและช่วยในการย่อยอาหารและลดประจุในปัสสาวะ
สิ่งที่ควรรู้ของการดื่มชา
วันนี้พาคนที่ชอบดื่มชามารู้จักกับโทษและประโยชน์ของการดื่มชา
เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ เพราะถึง แม้ ประโยชน์ของการดื่มชา จะมีมากแต่ก็มีโทษด้วยเช่นเดียวกันหากว่า
ดื่มชา ไม่ถูกวิธีแล้วอาจเกิดปัญหากับสุขภาพของคุณได้ ฉะนั้นรู้ไว้ใช่ว่า
จะได้เป็นการป้องกันและได้ประโยชน์จากการดื่มชาที่แท้จริงค่ะ
1.
ชาร้อน ๆ จะทำให้สารที่เป็นประโยชน์ คือ "คาเทคชินส์"
ถูกความร้อนทำลายไปเกือบหมด คงเหลือแต่ความหอมและรสชาติ
ถ้าต้องการให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพและยังนิยมชาร้อน ๆ ควรดื่มน้ำชาที่เข้มข้น
2.
ชาเขียวหรือสารสกัดจากใบชาสด หากนำมาเตรียมเป็นเครื่องดื่มแช่เย็น
ความเย็นจะช่วยรักษาคุณค่าของสารสำคัญในใบชาไว้ได้ดี
แต่หากผ่านการทำให้ร้อนปริมาณสำคัญในน้ำชาก็จะถูกทำลายเช่นกัน
3.
ชาร้อนหรือชาเย็น ไม่ควรแต่งรสด้วยนมทุกชนิด
เพราะโปรตีนในนมจะไปจับกับสารสำคัญในชาและทำลายประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
4.
ผู้รับประทานวิตามินเสริม เช่น ธาตุเหล็ก เกลือแร่
หรือยาที่คล้ายคลึงกันควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำชาร่วมไปด้วย เพราะสารสำคัญจากใบชาจะไปตกตะกอนธาตุเหล็กหรือเกลือแร่ไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
5.
โทษของการดื่มชาต่อร่างกายก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารสำคัญคือ
"แทนนิน" จะไปตกตะกอนโปรตีนและแร่ธาตุต่าง ๆ จากอาหารที่รับประทาน
ทำให้ลดการดูดซึมของสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย
จึงมีคำแนะนำไม่ให้เด็กดื่มน้ำชาไม่ว่าจะเป็นชาเขียวแช่เย็นหรือชาร้อนเพราะจะทำให้ขาดสารอาหาร
6.
ใบชายังมีองค์ประกอบที่ให้โทษต่อร่างกายที่ยังไม่ค่อยมีคนกล่าวถึง คือ
มีฟลูออไรด์ในปริมาณค่อนข้างสูง ทำให้เกิดการสะสมมีผลให้ไตวาย เกิดมะเร็งลำไส้
โรคกระดูกพรุน โรคข้อ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับกระดูก
แต่ถ้าดื่มไม่มากก็ไม่ต้องกังวล
7.
ใบชามีสารที่ชื่อว่า "ออกซาเลท" แม้จะมีอยู่น้อย แต่หากดื่มชามาก ๆ
และดื่มบ่อย ๆ เป็นประจำ สารนี้จะสะสมในร่างกาย เป็นอันตรายต่อไต
8.
ใบชามีสารกาเฟอีนสูง
อาจสูงกว่ากาแฟด้วยซ้ำเพียงแต่การดื่มน้ำชาสารแทนนินจากชาจะป้องกันหรือลดการดูดซึมของกาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายทำให้ฤทธิ์การกระตุ้นหัวใจและสมองน้อยกว่ากาแฟมาก
เอกสารอ้งอิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น