วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ส่งท้ายปีเก่าด้วยของขวัญจากใจ


วันนี้เป็นวันสิ้นสุดของปี พ.ศ.2555 แล้ว มันเป็นเพียงตัวเลขที่มันผ่านมาและก็ผ่านไป แต่สิ่งที่ดำเนินต่อไปก็คือการดำรงชีวิตของมนุษย์ สัตว์โลกทุกชีวิต รวมทั้งสรรพสัตว์ทั้งหลายที่เวรว่ายตายเกิดกันแล้วกันเล่า มันยังไม่สิ้นสุดวัฏจักรวงจรชีวิตของมนุษย์ไปได้ แต่สิ่งที่ยังคงกับโลกใบนี้ไม่มีเสือมสูญนั้นคือการทำความดีของเรานั้นเอง มันจะคงดำรงคู่ตลอดกาลนาน มันจะอยู่ในความทรงจำของคนที่ได้รู้ ได้พลานภพว่าบุคคลนั้นๆเป็นคนดีมากเพียงใด ณ วันนั้น ฉันรู้แก่ใจแล้วที่เขาว่า สวรรค์อยู่ในอกนั้นหมายถึง การที่ตัวตนของเราไม่ยึดติดกับสิ่งที่เลวร้ายผ่านเข้ามาในชีวิตเรา และอโหสิกรรมพร้อมไม่จองเวรกับสิ่งเหล่านั้น เราจะเกิดความสุขในใจของเรา และมันจะว่างเปล่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ฉันได้ทดสอบกับมันแล้วซึ่งมันได้เกิดขึ้นกับตัวฉันนั้นเอง ณ วันนี้ ฉันอโหสิกรรม และไม่คิดจองเวรกับคนที่กระทำร้ายกับฉัน ฉันบอกกับจิตใต้สำนึกของฉันตลอดว่าเราควร ตัดมันทิ้งไปซะ แล้วสิ่งที่ฉันได้รับมันคือความสุขที่มันเกิดขึ้นภายในจิตใจของฉันนั้นเอง มันรู้สึกโล่งๆในอก ทั้งๆที่ฉันมีปัญหามากมายที่ต้องให้ฉันเหนื่อยและล้ากับชีวิตที่ฉันได้รับในตอนนี้ แต่จิตข้างในฉันกับไม่หนักเบาและไม่ได้คิดอีกเหมือนเมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมาเลย
นี้แหละคือของขวัญที่ฉันอยากฝากให้กับเพื่อร่วมโลกใบนี้ได้รับรู้ว่า หากเราอโหสิกรรมกับสิ่งเลวร้ายทุกสิ่งทุกอย่างตัวเรานั้นแหละจะเป็นฝ่ายเป็นสุขอย่างมาก แต่หากเมื่อเราเจ้าคิดเจ้าแค้น คิดจองเวรกับทุกสิ่งทุกเรื่องอาฆาตมาดร้ายไปเสียทุกเรื่อง จิตใต้สำนึกภายในจิตใจเราจะลุ้มร้อนเหมือนดั่งไฟที่มันเผาอยู่ข้างใน บทความนี้ฉันขอมอบให้กับเพื่อนที่เข้ามาอ่าน มาติชม ทุกท่านนะค่ะ  มันเป็นทั้งอุทธาหรณ์สอนใจเราให้เราเข้มแข็งและลุกขึ้นมาเผชิญกับทุกสิ่งด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง เดินก้าวไปข้างหน้าและสู้อย่างถูกต้อง

                                    อโหสิกรรมกับสิ่งเลวร้าย      เดินก้าวไปด้วยจิตที่บริสุทธิ์  
                           สวรรค์ไม่ต้องไขว่คว้าแสวงหา     ความดีนั้นเล่าซิควรกระทำ



ขอให้ทุกท่านหลุดพ้นด้วยตัวของเราเองที่จะยึดมั่นปฏิบัติ มิใช่ทำความดีเท่านั้น สิ่งที่ควรปฏิบัติคือการไม่จองเวรซึ่งกันและกัน อโหสิกรรมกับทุกชีวิตที่ทำร้ายเราโดยเจตนาหรือไม่เจตนา สวรรค์อยู่แค่เอื้อม ความสุขที่ได้รับมันอยู่ในใจ เท่านี้ชีวิตมนุษย์ทุกชีวิตก็จะมีความสุขนั้นเอง

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

วิธีดูแลผู้ป่วยเป็นกรดไหลย้อน


สวัสดีค่ะวันนี้เรามาดูกันว่าผู้เขียนมีเรื่องอะไรมาเล่าบอกต่อกันนะค่ะ เมื่อวานอาจจะเป็นความบังเอิญหรือว่าเป็นบุญที่เราอาจจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในโลกใบนี้ด้วยกันนะค่ะ เกือบปีกว่าแล้วที่ตัวฉันไม่ได้ไปหาคุณป้าท่านหนึ่งและสุนัจตัวโปรดที่มันช่างติดฉันเหลือเกิน มันชื่อเจ้ายู่ยี้ ขนมันปุยและตัวอ้วนกลม ฉันนำเสื้อผ้าไปซักที่บ้านหลังเล็กแห่งนี้มานานเมื่อตอนฉันอยู่ที่ทำงานเดิม มันเห็นฉันครั้งแรกก็กระดิกหางให้และหลังจากนั้นเราก็เป็นเพื่อนกัน ฉันจะซื้ออาหารไปฝากมันตลอด

แต่สิ่งหนึ่งที่เจ้ายู่ยี้มันชอบคือ มันชอบทานเงาะมากที่สุด และเมื่อวานฉันมีโอกาสได้ไปแถวนั้น ฉันได้กอดคุณป้ากับเจ้ายู่ยี้อีกครั้งหนึ่ง คุณป้าท่านคิดถึงฉันมากท่านคิดเหมือนฉันเป็นลูกท่านเพราะท่านไม่มีลูกสาว มีแต่ลูกชายที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ท่าน้ำตาคลอเมื่อเห็นฉันแล้วก็บอกฉันว่า เมื่อหลายเดือนท่านเกือบไม่ไหวแล้ว ท่านป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลไม่มีเงินเลย ท่านคิดถึงฉัน ไม่รู้ว่าฉันไปไหน ท่านอยากโทรหาฉันแต่ท่านไม่กล้า ท่านเป็นความดันและกรดไหลย้อน ท่านเล่าให้ฉันฟัง ฉันเลยแนะนำให้ท่าน บอกว่าลูกสาวก็เป็นนะค่ะเสียเงินไปเยอะ และก็หายแล้วเพราะการดูแลเรื่องอาหาร ฉันได้ให้คำแนะนำกับท่านว่า ท่านควรเลิกดื่มนมก่อนนอนหรือไม่ก็ทานนมมอุ่นตอนเช้าเท่านั้นพอ และพยายามทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น ฉันได้บอกสูตในการดื่มน้ำสมุนไพร เพื่อเป็นการลดกรดในกระเพาะ ลดน้ำตาล ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ด้วยการที่ให้ท่าน นำกระชายมาปั่น คั้นน้ำ1แก้ว ผสมกับขมิ้นผง1/2ช้อนชา คนให้เข้ากันดื่มก่อนนอนทุกวัน และให้ท่านบริหารร่างกายเมื่อยามว่างนั่งหรือนอน ทุกอิริยาบทด้วย เพื่อให้กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นในร่างกายมีการกระตุ้นตื้นตัวตลอดเวลา มันจะสามารถช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้เป็นอย่างดีด้วยการฝึกโยคะ

ตามที่ฉันได้บอกท่านไว้ และบทความในวันนี้ ผู้เขียนได้แนบภาพและรายละเอียดการฝึก( รบกวนผู้อ่านเปิดชมท่าทางต่างๆได้ในบทความที่โพสต์การฝึกโยคะนะค่ะ ) ท่าทางต่างๆในการฝึกโยคะที่สามารถ ช่วยดูและร่างกายและสุขภาพของผู้สูงอายุมาให้ ไม่ใช่เพียงผู้สูงอายุเท่านั้นนะค่ะคนทุกวัยทุกเพศสามารถทำได้ หากเราไม่ต้องการไปหาหมอ หรือให้โรคภัยพวกนี้มาเยือนเรา ทำสมาธิให้จิตใจเราแนวแน่ในการออกกำลังกายกันนะค่ะ ผลดีต่อสุขภาพของเราในการฝึกโยคะ ดิฉันการันตีได้เลยว่าท่านจะไม่เหนื่อย ไม่เพลีย มีสุขภาพแข็งแรงทั้งภายในและภายนอกจริงๆค่ะ

วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

จุดจบของชีวิตที่ยุ่งเหยิง




บทความนี้อาจเป็นบทความสุุดท้ายของลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องต่อสู้ชีวิตมาตลอดไม่ว่าจะสู้ด้วยความดีงามเพียงใดมันก็ไม่ได้ทำให้มรสุมชีวิตของเธอดีขึ้น มันยิ่งหนักมากขึ้นทุกวัน เธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะลาจากโลกใบนี้สักที ไม่ใช่ว่าเธอยอมแพ้ต่ออุปสรรคขวากหนามแต่เธอคิดและไตร่ตรองแล้วว่าชีวิตที่เธอมองและตัดสินใจว่าทุกคนต้องอยู่ได้ ทุกคนสามารถพึ่งตนเองได้แล้วโดยไม่มีเธออยู่ในโลกใบนี้ได้ เด็กๆก็คงจะอยู่กับพ่อของเขากันได้ เด็กๆรู้จักที่จะรับผิดชอบและจัดการกับการดำรงชีวิตได้เธอมั่นใจ หากไม่มีเธอ เหลือเพียงผู้หญิงแก่คนหนึ่งเท่านั้นที่เธอเป็นห่วง แต่ก็คงไม่ต้องเป็นห่วงมากมายเพราะเธอผู้นั้นมีทรัพย์สมบัติและบ้านของเธอเอง เธอคงขายและนำเงินมาดำรงชีวิตของเธอได้โดยไม่มีฉัน ฉันพยายามที่จะสู้กับอาจจะเรียกว่ากรรมแต่ในอดีตชาติหรืออย่างไร แต่เธอมีความทรงจำที่ดี จำได้ว่าในชาตินี้เธอไม่เคยทำกรรมกับผู้ใด มีแต่ให้ทานผู้อื่นเสียมากกว่า แต่ ณ วันนี้มันมีเหตุการณ์ที่หนักหนาสาหัสมากที่เธอได้รับเสียจนจะไม่เหลือซึ่งวิญญาณในร่างกายของเธอแล้ว เธอตัดสินใจที่จะลาโลกใบนี้ไปอยู่ในที่ๆซึ่งไม่มีทั้งวิญญาณและสังขารอีก
 มันจะคงเหลือจิตที่บริสุทธิ์ของเธอผู้นั้นเท่านั้นเองที่ล่องลอยอยู่ในที่ใดที่หนึ่ง ที่ไม่มีใครรู้ใครเห็นว่าเธอผู้นั้นไปไหน แต่ทุกชัีวิตที่รู้จักเธอ คงจะจดจำความดีงามที่ลูกผู้หญิงคนหนึ่งเคยสร้างไว้ ทั้งกับคนยากจน คนมี คนรวย หรือแม้กระทั่งขอทาน ลูกเด็กเล็กแดงที่เธอเคยมอบให้นั้นเอง ความดีงามของเธอผู้นั้นมันคงจะเป็นอุทธาหรณ์สอนเพื่อนมนุษย์ทุกชีวิตได้บ้างว่า ในโลกใบนี้เราเคยได้รู้จักเธอผู้หญิงตัวเล็กที่เกิดมาจากการปลูกรากฐานแห่งพระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มันติดมากับตัวของเด็กสาวผู้นี้ตั้งแต่แรกเกิด ในจิตเดิมแท้ของแท้มีแต่่การสร้างความดีงาม ต่อสู้กับสิ่งชั่วร้ายหรือแม้กระทั่งเรื่องบางเรื่องที่คนอย่างเราคิดไม่ถึง แต่แล้วเธอก็จากไปคงเหลือไว้แต่ความทรงจำที่ดีงาม

วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ชีวิตที่ต้องพิสูจน์กับสวรรค์

เมื่อแหงนมองฟ้าขึ้นไปทุกครั้งและทุกครั้งที่มองก็นึกเสมอว่าสวรรค์ชั้นฟ้าดาวดึงส์ที่สรรพสัตว์ทุกชีวิตต้องการไปกันทุกชีวิตนั้นทำไมมันช่างงดงามเหลือเกิน และสิ่งที่อยู่หลังเส้นสุดขอบปลายเมฆนั้นมีอะไรและมันคืออะไร ทุกคนจะวาดภาพตามจินตนาการของแต่ละเรื่องแต่ละบทความกันไป หรือตามคำสอนต่างๆที่บันทึกไว้ในชาดกบ้าง หรือหนังสือต่างๆที่เราอ่านก็จะวาดภาพตามจินตนาการกันไป แต่สิ่งที่สำคัญที่อยู่เบื้องหลังของสวรรค์ชั้นฟ้านั้นคือดวงจิต
ของทุกชีวิตที่ทำความดีงามกันนั้นเองเมื่อละสังขารแล้วผู้ที่ทำความดีก็จะมีดวงจิตที่บริสุทธิ์และลอยไปอยู่ในที่ๆนั้น ไม่มีใครรู้ไม่มีใครทราบว่าหน้าตาของสวรรค์เป็นเช่นไร แต่สิ่งที่รับรู้ผู้ที่ทำความดีก็ไปในสถานที่สดสวยงดงามนั้นเอง แต่ทุกคนก็จะมีจินตนาการของแต่ละคน อย่างเช่นนักวาดภาพ ก็จะจินตนาการสวรรค์ไว้สวยสดงดงามเพื่อให้ผู้ที่เห็นภาพมีแรงบันดาลใจที่จะกระทำความดีนั้นเอง ทุกชีวิตของมนุษย์ปุถุชนจึงต้องทำความดีพิสูจน์ให้เห็นว่าการทำความดีนั้นเห็นผล และผลที่ได้สำหรับคนทำดีก็คือสิ่งที่ดีงามตอบแทน ก็เปรียบเสมือนคนๆนั้นได้ขึ้นสวรรค์ บางคนมักจะแย้งว่าแล้วสวรรค์หน้าตาเป็นอย่างไรเรา ดิฉันตอบแทนได้เลยว่าสวรรค์นั้นก็อยู่ที่ตัวเรานั้นเอง เราทำความดีเราก็มีความสุข เราทำบุญจิตใจเราก็สุข เราทำทานแบ่งปันผู้อื่นจิตใจเราก็เป็นสุขสดชื่นกับการกระทำความดีนั้นเอง จิตใจก็จะสว่างไสวเหมือนเทียนที่จุดขึ้นมาส่องสว่างไปทั่วในยามมืด

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ความรักคืออะไร


นานทีเดียวที่บทความหายไปกับความทุกข์ของดิฉันที่มันเป็นมรสุมชีวิตที่โหดร้ายรุมมาปะดัง ลูกแล้วลูกเล่า ให้ฉันได้ต่อสู้และฟัรฝ่ามันให้ได้และพิสูจน์ให้ได้ว่าชีวิตลูกผู้หญิงคนหนึ่งในโลกใบนี้มันมีชีวิตที่จริงและเกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันนี้ อาจเกิดจากกรรมที่ได้กระทำไว้แต่ก็ยังมีบุญเก่าแต่อดีตที่ยังประกบตัวฉันไม่ให้ชีวิตของฉันที่ดำเนินอยู่กับอีก4ชีวิตต้องพังลง ไหนจะเรื่องความเป็นอยู่ของครอบครัวเล็กๆในบ้านหลังหนึ่ง ความรักที่แอบแฝงซ่อนเล้นลึกๆในใจของฉัน ความรักมันคืออะไร มันไม่มีขีดจำกัดหรือสิ้นสุดใดๆเลยว่าความรักจะแบ่งช่วงอายุหรือวัยที่แตกต่างกัน
 วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว วัยทำงาน ทุกวัยความรักก็ยังมีอยู่ในใบนี้จริงๆ ฉันเคยเห็นโฆษณาอยู่เรื่องหนึ่งเป็นเรื่องความรักของชีวิตคู่ที่จนยามแก่แล้วก็ยังไม่ทอดทิ้งกัน







 ฉันตอบกับมันได้เลยว่าหากเรามีความรักที่บริสุทธิ์ ซึ่งกันและกันไม่ว่าแต่เป็นชนชั้นใด มันก็สามารถยืนยาวได้หากทุกชีวิตให้อภัยให้กันและกัน เข้าใจซึ่งกันและกันได้ ชีวิตคู่ที่เดินเคียงข้างความรักไปมันคงยืนยาวอย่างแน่นอน ใครเลยไม่อยากได้มัน ที่ความจริงมันไม่ใช่เสมอไป ชีวิตคู่ทุกวันนี้มันเกิดขึ้นไม่ใช่ด้วยความรักที่บริสุทธิ์อย่างที่ฉันคิด ถึงแม้ตัวฉันเองมีชีวิตไปครึ่งทางแล้วฉันก็ยังมีความคิดและแสวงหาความรักที่บริสุทธิ์และใครสักคนที่เป็นเช่นนั้น ชีวิตคู่ที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น ให้บ้างที่มีความรู้สึกและความคิดเช่นฉันบ้างเล่าว่าทำไมมันถึงหายาก ฉันเคยอ่านหนังสือของคุณแม่ชีศันสนีย์ฉันรู้สึกประทับใจในความรัก ฉันของเรียกคำนี้ มันช่างเป็นความรักที่บริสุทธิ์บนเส้นทางแห่งธรรมะ เสียสละซึ่งกันและกัน ซึ่งไม่เคยพบเฉกเช่นนั้นเลย