วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ครอบครัวที่สดใส

ภาพสองหนุ่มสาวสองสามีภรรยาที่สดใสและน่าอิจฉากับความรักที่อบอุ่นในเช้านี้ พร้อมสมาชิกหนุ่มน้อยร่างสูงแต่วันนี้ไม่พบเขา ตัวผู้เขียนได้พบเจอแต่สองสามีภรรยาเท่านั้น เป็นภาพที่งดงามนะค่ะ เมื่อเราเห็นผู้อื่นมีความรักใคร่ อบอวลไปด้วยความอบอุ่นที่ให้กันและกัน เช้าวันนี้อากาศสดชื่นมากและที่ประทับใจก็คือ ภาพของสามีภรรยาที่นั่งคุยกันในยามเช้า เช่นนี้ ตัวผู้เขียนได้มีโอกาสรู้จักกับครอบครัวนี้เมื่อปีที่แล้ว ในหมู่บ้านที่ตัวผู้เขียนอยู่ได้ทำถนนในซอยที่อยู่ และเกิดปัญหาไม่มีที่จอดรถ คุณป้าที่รู้จักกับคุณแม่ท่านได้ไปขอความช่วยเหลือ บ้านของพี่ทั้งสองนี้อยู่ซอยถัดจากที่ฉันอยู่ หนึ่งซอย ฉันได้รับน้ำใจจากครอบครัวนี้เป็นอย่างดีค่ะ โดยนำรถไปฝากจอดที่บ้านของเธอทั้งสอง สามีรับราชการเป็นนายทหาร ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้าน และมีบุตรชาย1คนรุ่นเดียวกับลูกสาวของตัวผู้เขียนเอง คุณผู้อ่านค่ะเชื่อหรือไม่ว่า คนเราดูเพียงเปลือกนอกไม่ได้ขึ้นอยู่ที่รูปร่างหน้าตานะค่ะที่สวยงามแล้วจิตใจจะดีงามตามหน้าตา พี่ผู้หญิงพิการทางใบหน้า เรียกว่า จมูกโหว่ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยงาม แต่สิ่งหนึ่งที่ตัวผู้เขียนยอมรับว่าเธอสวยงามยิ่งกว่าหน้าตา
คือน้ำใจที่งดงามจริงๆ ทั้งสองอยู่กันด้วยครอบครัวที่มีความสุขมากๆ เท่าที่ตัวผู้เขียนเคยเห็นมา ไม่เคยเห็นครอบครัวไหนจะมีความสุขเท่ากับครอบครัวนี้จริงๆค่ะ
 สามีก็พี่ผู้ชายหน้าตาเขาดีนะค่ะ แต่ฉันสงสัยว่าทำไมเขายอมแต่งงานกับพี่คนนี้ทั้งๆที่พิการและไม่สวย แต่วันนี้ได้ประจักษ์ให้ฉันเห็นว่าน้ำใจที่งดงาม ความดีงามเป็นคนดีของพี่ผู้หญิงนั้นคือหัวใจในการที่คนทั้งสองครองคู่กันมา พี่ผู้ชายได้บอกกับฉันว่า เขาเป็นคนดีมากๆ และเป็นแม่บ้านแม่เรือน นี้แหละคือสิ่งที่พิชิตหัวใจนายทหารหนุ่มผู้นี้ให้อยู่นิ่งได้ ฉันเชื่อแล้วนะค่ะว่ารูปร่างหน้าตาเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้นที่ไม่ได้ใช้ชีวิตคู่ให้คงอยู่ได้ตลอดไป ความดีงาม ความอดกลั้น ความงดงามของจิตใจนี้หละสำคัญที่สุดในการดำรงชีวิตครอบครัวให้อยู่ยั่งยืนได้ มันเป็นภาพประทับใจค่ะที่จะหาดูได้ในสังคมปัจจุบัน ส่วนลูกชายของเธอทั้งสองก็น่ารัก พ่อแม่อบรมมาดีค่ะ หลานชายคนนี้เอาส่วนดีของพ่อแม่มาค่ะ ทำให้เขารูปร่างหน้าดี ผสมกับความสูงที่ได้จากคุณพ่อที่เป็นทหาร ฉันได้พูดคุยกับพี่ผู้หญิงมากกว่า และได้สอบถามว่า พี่ใช้ชีวิตคู่เช่นไรค่ะถึงได้อยู่ยืนยาว เช่นนี้ พี่ผู้หญิงได้สอนบทเรียนบทหนึ่งให้ตัวผู้เขียนรู้ว่า สิ่งแรกของการใช้ชีวิตคู่นั้นคือการให้อภัย และอดทน เราต้องให้อภัยและเคารพในเกียรติของสามีเรา และมองข้ามเลยไป ไม่ไปสนใจอะไรที่ไม่ควรจะจดจำ ดูแลเขา และที่สำคัญต้องไม่ขี้บ่นเกินงาม ฉันฟังและนั่งขำพี่ผู้หญิงนะค่ะที่เธอเล่าไปหัวเราะไป ฉันถามพี่ผู้หญิงว่าเป็นคนจังหวัดไหนกันค่ะ เธอบอกว่าเธออยู่ ลพบุรี ส่วนสามีอยู่นครปฐม ที่ฉันถามพี่เขาก็เพราะว่า เห็นพี่ทั้งสองน่ารักใจเย็นกัน และอารมณ์ดี มีน้ำใจดีงาม เลยกลายเป็นอันว่า ครอบครัวของเราสนิทกันโดยปริยายค่ะ เพราะพี่ผู้ชายเป็นคนรักต้นไม้
เวลามาเยี่ยมคุณแม่ของฉันก็จะหอบหิ้วต้นไม้มาแลกเปลี่ยนกันสนุกสนานค่ะ ใช้ได้นำเรื่องราวและชีวิตของครอบครัวนี้มาวิเคราะห์หาบทสรุปได้ว่า ชีวิตการครองคู่ในชีวิตของคนสองคน มันไม่ได้มีองค์ประกอบเพียงไม่กี่อย่างนะค่ะ แต่สัจจธรรมของความจริงในการดำรงชีวิต คือ การเข้าใจซึ่งกันและกัน การให้อภัย ความอดทน อดกลั้น และเหตผลแห่งความเป็นจริง การเอาใจใส่ซึ่งกันและกันเมื่อเกิดปัญหาช่วยกันแก้ไข สิ่งเหล่านี้เป็นภูมิคุ้มกันให้ครอบครัวดำเนินไปอย่างมีคุณภาพ และทรงไว้ซึ่งด้วยความมั่นคงของครอบครัวจริงๆ ตัวผู้เขียนต้องการให้บทความนี้เป็นบทความที่สวยงามและขอมอบเป็นของขวัญในเดือนเกิดของฉัน แด่คุณผู้อ่านทุกท่านะค่ะ ตัวผู้เขียนอาจจะไม่มีโอกาสได้มีครอบครัวที่อบอุ่นครบบริบูรณ์เหมือนครอบครัวพี่ทั้งสองนี้ แต่ตัวผู้เขียนภูมิใจในครอบครัวของตัวเองที่อบอุ่นเช่นเดียวกัน ที่มีคุณแม่ที่ใจดี ลูกสาวที่น่ารัก เท่านี้ก็พอเพียงกับชีวิตของเราที่ได้เกิดเป็นปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งที่พอใจในสิ่งที่เป็นอยู่นะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น