วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ความทุกข์ของผู้หญิงคนหนึ่ง



สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่านสบายดีกันนะค่ะด้วยสายฝน ฟ้าร้องคะนอง ก่อนทานข้าวกลางวัน วันนี้ตัวผู้เขียนอยากเขียนเรื่องราวของผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ชีวิตของเธอน่าจะดูราบรื่นและมีความสุข หลังชีวิตแต่งงาน ชีวิตของผู้หญิงสาวคนนี้ ดูดีและเป็นที่น่าอิจฉามากในสายตาของเพื่อนฝูงและครอบครัวที่ได้พบเห็นครอบครัวของเธอมานาน แล้วใครหล่ะที่จะคาดเดาได้ว่ากรอบที่ทุกคนเห็นนั้น มีนจะแฝงความทุกข์ลึกๆที่อยู่ในใจผู้หญิงคนนี้ เมื่อเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับครอบครัวนี้ จากคำเล่าขานประวัติของเธอผู้นี้ เธอถูกเลี้ยงมาอย่างดี จากครอบครัวผู้ดีเก่า ที่สอนและอบรมมาเป็นอย่างดี แทบจะหลุดออกมาจากหนังสือสมบัติผู้ดีด้วยซ้ำ ขนบธรรมเนียมประเพณี ทุกสิง่ทุกอย่างที่ผู้ดีสมัยโบราณได้อบรมบ่มนิสัยมาดีนั้น ไม่ว่าจะกิริยามารยาท เธอก็ไม่เคยที่จะลืมคำสั่งสอนของบรรพบุรุษ

หรือมารดาที่ได้อบรมเธอมา ชีวิตคุณหนูของเธอและน้อง ดูน่าอิจฉา แต่อะไรเล่าค่ะที่มันผันแปรชีวิต เด็กผู้หญิงคนนี้กลายเป็นผู้นำครอบครัว ความกตัญญูรู้คุณ หรือการมีจิตใต้สำนึกที่ดีงามต่อครอบครัวของเธอ แล้วทำไมเรื่องราวชีวิตของเธอผู้นี้ถึงได้น่าสงสาร และอดทนเช่นนี้ หากตัวผู้เขียนเป็นผู้หญิงคนนี้ คงยืนต่อสู้อยู่บนโลกใบนี้คนเดียวไม่ได้แน่นอน เพราะจากชีวิตที่เธอเล่านั้น มันคือความทุกข์ที่หนักมากที่เธอไม่เคยบอกใคร เลยสักคน เธอคอยเฝ้ามองผู้อื่นมีความสุข ได้รับความสบายทุกอย่าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราคิดว่ามันคือทุกข์ แต่จริงแท้เธอบอกว่าไม่ใช่ เธอมีความสุขต่างหากที่เห็นผู้อื่นมีกิน มีใช้ มีความสุขกับสิ่งที่เธอให้ ตัวผู้เขียนก็แปลกใจว่าทำไมเธอถึงได้คิดเช่นนั้น แล้วอะไรหล่ะค่ะที่ทำให้เธอผู้นี้มีทุกข์ ฉันถามเธอ เธอตอบว่า สิ่งที่เธอเป็นทุกข์ก็คือ เธอไม่สามารถเป็นและเก่งเหมือนผู้ชายได้ เพราะหากเธอเก่งเท่ากับผู้ชาย เธอก็จะหาเงินทองให้ผู้อื่นมีความสุขมากกว่านี้ มันช่างตลกนะค่ะ ทุกวันนี้เธอต้องเป็นผู้นำมากตลอดเพื่อเลี้ยงครอบครัวของตนเอง แต่มันก็ไม่น่าแปลกสำหรับสังคมปัจจุบันที่ผู้หญิงไทยสมัยนี้เริ่มแกร่ง และเก่งมากขึ้น เราจะเห็นเธอทั้งหลายต้องดูแลครอบครัวตามลำพังกันมากขึ้น นั้นคือความเข้มแข็งของผู้หญิงไทยสมัยนี้ มีความอดทนสูง กล้าแสดงออกมากขึ้น ตัวผู้เขียนได้ขออนุญาตเธอผู้นี้ขอนำชีวะประวัติบางส่วนของเธอมาเผยแพร่ให้ ลูกผู้หญิงอย่างเราๆทราบกัน อย่างน้อยก็เป็นเครื่องเตือนใจเรายามที่ท่านอาจจะคิดท้อแท้ ในยามเศร้า หรือท้อแท้ในยามเหนื่อย อย่างน้อยเราก็จะได้คิดว่าในโลกใบนี้ก็ยังมีชีวิตที่อาจจะแย่กว่เราอยู่ในสังคมไทยอีกมากมายนะค่ะ เราจะได้มีพลัง กำลัง ในการต่อสู้เพื่อลูก และครอบครัวของเราต่อไปในภายหน้าได้นะค่ะ ชีวิตมนุษย์ไม่มีอะไรที่จะสมบูรณ์แบบไปเสียทั้งหมดอย่างน้อยเราจะได้คิด ให้กำลังใจกับตัวเองกันนะค่ะ ลุกขึ้นสู้ และก้าวต่อไปเพื่อหัวใจดวงน้อยๆของเราที่บ้าน ธรรมะสวัสดีค่ะ

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ14 ธันวาคม 2554 เวลา 21:28

    เชืื่อไหมค่ะว่าดิฉันก็ทุกข์สาหัส แต่ปัจจุบันนี้ดิฉันมีชีวิตเหมือนในข้อความนี้ ดิฉันมีเรื่องอีกมากที่จะเล่าให้ฟัง เพราะอาจเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่กำลังท้อแท้และสิ้นหวังอยู่ในขณะนี้

    ตอบลบ