วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คุณพร้อมจะฝึกโยคะแล้วหรืกยัง


  1. สถานที่ฝึก ควรมีพื้นเรียบ อากาศถ่ยเทได้สะดวก ไม่อึกทึก ไม่มีเสียงรบกวน มีความเป็นส่วนตัวแลสงบพอสมควร
  2. การฝึกโยคะควรฝึกอย่างน้อยวันละหนึ่งชั่วโมง ควรฝึกหลังทานอาหารแล้วอย่างน้อย 3 ชั่วโมง  ดังนั้นการฝึกที่ดีควรจะเป็นการฝึกช่วงเช้า และไม่ควรฝึกมากเกินไป ไม่ตวรเกิน 90 นาที เพราะแค่นี้ก็เหนื่อยมากพอสมควรแล้ว
  3. ควรจะขับถ่ายก่อนฝึก ปกติเราควรขับถ่ายในช่วงเช้า  เมื่อขับถ่ายเรียบร้อยแล้ว  จะทำให้ตัวเราเบาขึ้นขณะฝึก  การทำงานของระบบภายในก็ไม่มีอะไรตกค้าง
  4. อุปกรณ์การฝึก แผ่นยางกันลื่น หรือเบาะที่ใช้ในการฝึก  ไม่ควรลื่น  หรือนุ่ม ถ้าใช้เบาะที่เป็นฟองน้ำ  ทำให้การฝึกท่าที่ต้องใช้การทรงตัวไม่สามารถทำได้
  5. เสื้อผ้าสำหรับสวมใส่เวลาฝึก ควรเป็นชุดที่สวมใส่สบาย  ไม่รู้สึกว่ารัดมากเกินไป  กางเกงยืด เสื้อยืด หรือชุดสำหรับใส่ฝึกโยคะโดยตรง เพราะสามารถยืดหยุ่นได้ตามการเคลื่อนไหว ขณะฝึกไม่ควรสวมใส่เครื่องประดับใดๆ เช่น นาฬิกา แหวนแว่นตา กำไลข้อมือ ควรถอดออกให้หมดก่อน
  6. ก่อนการฝึกและขณะที่ฝึกโยคะ ควรทำจิตให้สงบมีสมาธิ ฝึกการหายใจอย่างถูกต้องมีประสิทธิภาพ การฝึกโยคะที่ดี  ควรจะมีสติ  มีสมาธิกับการฝึกของตัวเอง  ไม่วอกแวกกับเรื่องอื่น  แต่ควรให้ความสำคัญกับทุก ๆ ลมหายใจ และฝึกการเคลื่อนไหวอย่างมีสมาธิก่อนฝึกอาสนะต่างๆเสมอ 
  7. ขณะที่ฝึก  ไม่ควรให้มีลมมากระทบผิวมากเกินไป  ถ้าลมแรงมาก  จะทำให้เราเกิดการบาดเจ็บได้  และเหงื่อจะไม่ค่อยออก
  8. ไม่ควรดื่มน้ำขณะฝึก  เพราะความร้อนกำลังสูงขึ้น  หากเราดื่มน้ำจะทำให้ความร้อนลดลง  การฝึกก็จะไม่ค่อยดี  และไม่ต่อเนื่อง
  9. ควรเตรียมผ้าเช็ดเหงื่อไว้ข้างตัว  แต่ไม่ควรเช็ดเหงื่อบ่อย  เพราะการที่เหงื่อออกเป็นการทำให้ร่างกายบริสุทธิ์  และการเช็ดเหงื่อบ่อย ทำให้การฝึกไม่ต่อเนื่อง
  10. ถ้ารู้สึกปวดเข้าห้องน้ำ  ก็ควรไปเข้าในทันที  ไม่ควรกลั้นปัสสาวะไว้
  11. เมื่อฝึกเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ควรรอให้เหงื่อแห้งก่อน  แล้วค่อยอาบน้ำ
  12. สำหรับผู้หญิง  ช่วงที่มีประจำเดือนอย่างน้อย 3 วันที่มามากไม่ควรฝึกโยคะ  
  13. ไม่ควรเครียด หรือตั้งเป้าหมายในการฝึกแต่ละวันมากเกินไป  เพราะเมื่อเราเครียดกับการฝึกแล้ว  จะทำให้เราฝึกได้ไม่ดี  ควรปล่อยไปตามที่ร่างกายเราสามารถรับได้  เพราะหากเราฝืนมากเกินไปร่างกายเราอาจจะได้รับบาดเจ็บจากการฝึกได้
  14. การหายใจเข้า-ออก  ควรให้แม่นยำว่าท่านี่จะต้องหายใจเข้าหรือออก  ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่ค่อยได้ประโยชน์จากการฝึกโยคะ การหายใจเข้า ควรหายใจเข้าอย่างช้าๆ ลึกๆ และสม่ำเสมอและหน้าท้องจะพองขึ้น การหายใจออก ควรหายใจออกอย่างช้าๆ ลึกๆ และสม่ำเสมอ หน้าท้องจะแฟบลง
  15. การฝึกปฏิบัติโยคะที่ดีนั้น  จะใช้การเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ประสานลมกับหายใจเข้า-ออก และ จิตที่สงบนิ่งเป็นสมาธิขณะเคลื่อนไหว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น