วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ฟักทองอาหารที่ทรงคุณค่า ราคาไม่แพง

ฝักทอง เป็นสิ่งที่หลายๆคนรู้จักดีมาก ฝักทองมีประโยชน์ทางโภชนาการมาก ฟักทอง เป็นพืชตระกูลมะระ ชนิดไม้เถาขนาดใหญ่  ลักษณะลูกกลม ผิวขรุขระ มีหลากหลายสี เขียวบ้าง เหลืองบ้าง ส้มบ้าง น้ำตาล คราม สีดำก็ยังมี มีลายต่างๆก็มี และมีหลายสายพันธ์ มีเนื้อสีเหลืองทอง เนื้อในสีเหลืองนั้นนิ่ม มีเมล็ดสีขาวแบน ๆ ติดอยู่ เป็นพืชฟื้นเมืองของชาวตะวันตก

คนส่วนมากจะนำฝักทองมาประกอบอาหารอยู่บ่อย ๆ เพราะ "ฟักทอง" สามารถประกอบอาหารคาว-หวานได้สารพัดเมนู จึงไม่แปลกที่ "ฟักทอง" จะเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายคน


การปลูกฝักทองนั้ก็ง่ายนิดเดียว โดยใช้เมล็ดปลูกในดินร่วนหรือดินปนทราย  ฟักทองจะเจริญเติบโตแตกยอดผลิดอก ออกผลอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในหน้าฝน  และเคล็ดลับที่จะทำให้ฟักทองออกผลดก ต้องหมั่นเด็ดยอดไปทำอาหารบ่อย ๆ คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานฟักทองเป็นผัก 
ฟักทอง มีสรรพคุณทางยาอย่างมากมาย
         เนื้อฟักทอง มีวิตามินเอสูง  รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง และที่จะลืมไปไม่ได้เลยก็คือ "เบต้าแคโรทีน" ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชึ่งช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง อยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง สามารถช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ แถมเบต้าแคโรทีน ยังช่วยต้านความชรา ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่า และบั้นเอวได้เป็นอย่างดี รวมถึงสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมความดันโลหิต บำรุงตับและเป็นยาระบายอ่อนๆด้วย เนื้อฝักทองมีกากใยสูง และมีกรด "โปรไพโอนิค" กรดนี้ทำให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลง

  เปลือกฟักทอง มีฤทธิ์ทางยามากมาย หากทานฟักทองทั้งเปลือก จะสามารถกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกาย ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวาน ความดันโลหิต บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ตายไป ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


          ใบอ่อน มีวิตามินเอสูงเท่ากับเนื้อฟักทอง แต่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในเนื้อ
        
  ดอก มีวิตามินเอ ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส มีวิตามินซีเล็กน้อย


เมล็ด ประกอบด้วยแป้ง ฟอสฟอรัส โปรตีนและวิตามิน รวมทั้งสารที่ชื่อว่า "คิวเคอร์บิติน" (cucurbitine) ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าพยาธิตัวตืดได้ดี และยังช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันการเกิดนิ่ว มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ น้ำมัน
จากเมล็ดฟักทองยังช่วยบำรุงประสาทได้ดี และยังมีกรดอะมิโนบางชนิดที่ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากของผู้ชายขยายใหญ่ขึ้น และช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชายที่ได้จากลูกอัณฑะให้อยู่ในระดับปกติ
          ราก น้ำมาต้มน้ำใช้ดื่มแก้อาการไอได้ และยังช่วยบำรุงร่างกาย ถอนพิษของฝิ่นได้

          เยื่อกลางผล สามารถนำมาพอกแผล แก้อาการฟกช้ำ อาการปวด อักเสบได้

ฟักทอง อาหารเพื่อคุณผู้หญิง

          และสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการลดน้ำหนัก "ฟักทอง" นี่แหละค่ะคือ "ตัวช่วย" ที่ดีตัวหนึ่งเลยทีเดียว เพราะฟักทองเป็นพืชที่มีกากใยมาก และมีแคลอรีไม่สูง ไขมันน้อย จึงไม่ทำให้อ้วน นอกจากนี้ในฟักทองมีวิตามินหลายชนิดในปริมาณสูง จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณของคุณสาว ๆ มีน้ำมีนวล แถมสายตายังดูปิ๊งอีกต่างหาก

          นอกจากนี้ สำหรับสตรีหลังคลอดบุตร "ฟักทอง" ซึ่งมีฤทธิ์อุ่น จะช่วยย่อยอาหาร ทำให้กระเพาะอุ่น บำรุงกำลัง ลดอาการอักเสบ แก้ปวดได้อีกด้วย

ข้อควรระวังในการทาน "ฟักทอง"



 เนื่องจาก "ฟักทอง" มีฤทธิ์อุ่น 
ดังนั้นคนที่ "กระเพาะร้อน" คือมีอาการเช่นกระหายน้ำ ปากเหม็น หิวง่าย ปัสสาวะเหลือง ท้องผูก เป็นแผลในช่องปาก เหงือกบวม ไม่ควรทานฟักทองมากเกินไป เพราะอาจกระตุ้นให้ร่างกายร้อนขึ้นได้นั่นเอง หรือแม้แต่ในคนปกติ การทานฟักทองมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้องได้เช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น