วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

อ่อนเยาว์เสมอกับการเคลื่อนไหวอย่างมีสมาธิแบบโยคะ


รูปแบบการฝึกสมาธิไปพร้อมกับการเคลื่อนไหวของร่างกายนี้มีวิธีการฝึกหลายอย่าง แต่ที่กำลังนิยมของผู้ที่ชื่นชอบการรักษาสุขภาพกายและใจไปควบคู่กันได้แก่ โยคะ  คือใช้หลักการเคลื่อนไหวทางร่างกาย  ช้า ๆ ไปพร้อมกับการทำใจให้ว่างและเป็นสมาธิ ด้วยการกำหนดการหายใจเข้า ออก พร้อมกับมีสติรับรู้การเคลื่อนไหวของร่างกายในขณะที่ฝึกอยู่เสมอ หรือจะกำหนดใจไปยังอวัยวะส่วนที่ไม่แข็งแรงให้กลับคืนสู่สภาพปกติก็ได้ ซึ่งรูปแบบการฝึกสมาธิอย่างนี้จะมีประโยชน์ต่อการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และจิตใจให้ผ่อนคลายความเครียด ความกังวล ให้ความรู้สึกสดชื้น แจ่มใส และมีรูปร่าง หน้าตา ที่ดูอ่อนเยาว์กว่าคนปกติ 

การเคลื่อนไหวตามวิธีนี้เป็นการทำสมาธิไปด้วยในตัว พร้อมกับการเคลื่อนไหวทางกายช้า ๆ อย่างระมัดระวัง และทุกอิริยาบถมีการกำหนดรู้ตัวโดยตลอด ถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติสมาธิอย่างหนึ่งที่กระทำไปพร้อมกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ท่าฝึกการเคลื่อนไหวอย่างมีสมาธิ เพื่อความอ่อนเยาว์เสมอ
วิธีปฏิบัติ
1. นั่งท่าดอกบัวชั้นเดียว วางมือบนเข่าทั้งสองข้างโดยหงายฝ่ามือ
2. หลับตา จิตสงบนิ่งและเป็นสมาธิ นั่งแบบสบายๆ ไม่เกร็งลำตัว
3. ส่งจิตไปที่มือซ้ายและมือขวา แล้วค่อยๆ กำมือเข้ามาอย่างช้าๆ เบาๆ ไม่ต้องเกร็งมือ
    ในขณะที่กำมือ ให้นึกภาพมือของเราค่อยๆกำเข้ามาในระยะที่เท่าๆกันทั้งสองข้าง
    จนสุด ( กำแต่เพียงเบาๆ )
4. ตายังคงหลับอยู่ แล้วค่อยๆคลายมือที่กำอยู่ออกที่ละน้อยๆ ในระยะที่เท่าๆกัน
   จนกระทั้งมือแบบออกตามเดิม
5. ทำจนกระทั่งจิตจะอยู่กับการเคลื่อนไหวของมือ
การฝึกท่าโยคะ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องฝึกการเคลื่อนไหว อย่างมีสมาธิก่อนเสมอ เมื่อจิตสงบนิ่งอยู่กับการเคลื่อนไหวของนิ้วมือของตนอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาพอสมควร ร่างกายจะหลั่งสาร เอนดอร์ฟิน ( เป็นสารที่ทำให้เกิดความสุข สดชื่น มีกำลัง) สารนี้มีผลต่อเชลล์เนื้อเยื้อ และผิวพรรณ วรรณะ มาก ทำให้ใบหน้าสดชื่น อิ่มเอิบ เปล่งปลั่ง เพราะฉนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ผู้ที่ฝึกโยคะแล้วใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย เพราะจิตใจไม่ฟุ้งซ่าน ไม่เครียด ไม่วิตกกังวล ไม่วุ่นวายจากเรื่องทั้งหลาย เป็นผลมาจากการทำสมาธิในขณะของการเคลื่อนไหวในอิริยาบถต่างตามท่าฝึกของโยคะนั่นเองค่ะ  


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น