วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

เห็ดไมตาเกะกับสารโพลีแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide)

เห็ดไมตาเกะ


ในทุกชีวิตมีระบบภูมิคุ้มกันของตัวเอง ระบบภูมิคุ้มกัน (Immume System) เป็นเกราะ เป็นปราการคอยปัองกัน
เชืัอโรคต่างๆที่อยู่รอบตัวเราที่มีมากมาย ที่ปะปนมากับอาหาร อากาศ น้ำดื่ม เสื้อผ้า ที่อยู่ที่อาศัย ฯลฯ ทำให้เรา
ไม่เจ็บป่วยง่าย หรือป่วยเล็กน้อยไม่มีอาการรุนแรง
และด้วยสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง อาจทำให้มีการสะสมของมลพิษทั้งในอาหารและเครื่องดื่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมไปถึงการใช้ชีวิตที่เร่งรีบเคร่งเครียด และอายุที่มากขึ้นส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มีอยู่ตามธรรมชาติลดลง ส่งผลให้มีโอกาสเป็นโรคต่างๆได้ง่ายขึ้น เช่น โรคติดเชื้อ โรคภูมิแพ้ และอาจร้ายแรงไปจนถึงโรคมะเร็ง เป็นต้น ดังนั้นการดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้นในปัจจุบัน เช่น การบริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยลง และรับประทานทานผักให้มากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันการรับประทานพืชผักรวมไปถึงการรับประทานมังสวิรัติหรือทานเจ ก็เริ่มกลายมาเป็นกระแสที่มีผู้นิยมบริโภคกันมากขึ้นและถือเป็นหนึ่งในการดูแลตนเองโดยวิถีแบบธรรมชาติเช่นกัน 
หลายครั้งหลายหนที่เรารับประทานอาหารโดยมี "เห็ด" เป็นส่วนหนึ่งในการประกอบในอาหารที่รับประทาน โดยทราบเพียงว่า "เห็ด" เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนจากธรรมชาติ ซึ่งจัดเป็นอาหารประเภทผักที่ปราศจากไขมัน มีปริมาณน้ำตาลและเกลือค่อนข้างต่ำ และยังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี เห็ดมีกรดอะมิโนกลูตามิคเป็นองค์ประกอบ โดยกรดอะมิโนตัวนี้ จะทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นประสาทการรับรู้รสอาหารของลิ้นให้ไวกว่าปกติ และทำให้มีรสชาติคล้ายกับเนื้อสัตว์
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า "เห็ด" นั้นยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและนิยมบริโภคกันมายาวนานนับพันปี และมีเห็ดอยู่ในธรรมชาติมากกว่า 140,000 สายพันธุ์ แต่ก็มีเห็ดเพียงไม่กี่สายพันธุ์ ที่สามารถรับประทานได้และให้สารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งมีผลในการป้องกันรวมไปถึงรักษาโรคตามตำราการแพทย์โบราณ ซึ่งเห็ดเหล่านี้ได้ถูกขนานนามว่าเป็น "เห็ดทางการแพทย์ (Medicinal Mushrooms)" นั่นเอง
"เห็ดทางการแพทย์" (Medicinal Mushrooms) หมายถึง เห็ดที่มีคุณสมบัตินำมาใช้ในทางการแพทย์หรือมีคุณสมบัติพิเศษอื่นนอกเหนือไปจากการนำมาใช้เป็นอาหาร แต่สามารถนำมารับประทานได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้เห็ดทางการแพทย์มีความแตกต่างจากเห็ดธรรมดาที่สามารถหารับประทานกันง่ายดายตามท้องตลาดทั่วไป ทั้งนี้เพราะเห็ดทางการแพทย์ (Medicinal Mushrooms) หาได้ค่อนข้างยาก อีกทั้งบางชนิดยังมีราคาสูงมากถึงกิโลละแสนบาท
เห็ดทางการแพทย์ (Medicinal Mushrooms) ได้แก่
เห็ดไมตาเกะ หรือที่รู้จักกันดีในนามของ King of Mushroom (ราชาแห่งเห็ด) เป็นเห็ดสมุนไพรขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพสูง มีการศึกษาถึงประโยชน์ในการป้องกันและการรักษาโรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง โรคเอดส์ เบาหวาน โรคอ้วน และระดับคลอเรสเตอรอลในเลือดสูงอีกด้วย


เห็ดไมตาเกะ
เห็ดทางการแพทย์(Medicinal Mushrooms) นั้นสามารถให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและปลอดภัย เช่น เบต้ากลูแคน,โพลีแซ็คคาไรด์, ไกลโคโปรตีน, เลคติน และเทอร์ปีนอยด์ ซึ่งสารเหล่านี้มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาในการเป็น สารต้านจุลชีพ, สารต้านเชื้อรา, ปรับสมดุลความดันโลหิต, ลดระดับคลอเลสเตอรอลในกระแสเลือด และที่สำคัญคือ การยกระดับภูมิคุ้มกันของร่างกาย

เห็ดไมตาเกะ

สรรพคุณทางยาของเห็ดไมตาเกะ สารโพลีแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) ที่มีอยู่ในเห็ดชนิดนี้ มีโครงสร้างเฉพาะตัว มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา โดยมีส่วนกระตุ้นการทำงานของเมล็ดเลือดขาว เพื่อปรับสมดุลการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อโรคและเซลล์มะเร็ง
ถ้าร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงก็ไม่ต้องกลัวต่อเชื้อโรค

"ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย" นับเป็นกลไกการปรับตัวตามธรรมชาติซึ่งมีส่วนช่วยร่างกายในการป้องกันเชื้อโรคต่างๆที่จะเข้ามาทำร้ายร่างกาย โดยทั่วไประบบภูมิคุ้มกันมีกลไกการทำงานที่ซับซ้อนและเกี่ยวเนื่องกับสารเคมีหลายชนิดในร่างกายรวมทั้งเซลล์เม็ดเลือดขาวก็ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำหน้าที่หลักในระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งสารที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่พบในเห็ดทางการแพทย์เหล่านี้ได้มีการยืนยันด้วยรายงานการศึกษาทางวิชาการที่ตีพิมพ์หลายร้อยฉบับรวมทั้งวารสารเห็ดทางการแพทย์นานาชาติ (International Journal of Medicinal Mushroom) ว่ามีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวเพื่อปรับสมดุลการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ได้ประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับการต่อต้านเชื้อโรคและเซลล์มะเร็ง เปรียบเทียบได้กับการ "ยกระดับภูมิคุ้มกัน" ให้กับร่างกาย ซึ่งเมื่อระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็เหมือนกับเป็นการเสริมสร้างเกราะป้องกันร่างกายที่แข็งแรงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเช่น โรคติดเชื้อ โรคภูมิแพ้ และโรคเรื้อรังต่างๆได้

 ดังนั้นเพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและร่างกายแข็งแรงตลอดจนมีสุขภาพที่ดีอย่างยืนยาว เราควรหาโอกาสในการบริโภคเห็ดทางการแพทย์เหล่านี้เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง แต่การรับประทานเห็ดทางการแพทย์ให้ได้ผลดีนั้น ไม่ใช่เพียงการนำเห็ดทางการแพทย์หลายๆอย่างมาประกอบอาหารอย่างเช่นการทำอาหารโดยทั่วไป แต่ต้องนำเห็ดทางการแพทย์มาผ่านกระบวนการสกัดเพื่อให้คงคุณค่าของเห็ดทางการแพทย์อย่างสมบูรณ์

เอกสารอ้างอิง
หาข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดทางการแพทย์(Medicinal Mushroom)เพิ่มเติมได้ที่ www.เห็ดทางการแพทย์.net , www.mushroom.msu.ac.th , www.isms.biz
หรือ www.dmsc.moph.go.th/webroot/secretary/Homepage/news46/July/8.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น