พุทธรักษาเป็นไม้มงคลและเป็นไม้สมุนไพรด้วย ดอกนั้นนำมาต้มน้ำดื่มให้รสผาด ช่วยสมานท้อง ต้นหรือเหง้าที่อยู่ใต้ดิน มีรสขม เย็น ใช้ร้กษาโรคบิด อาเจียนเป็นเลือด และโรคภายในทั้งบุรุษและสตรี นอกจากนี้ยังนำมาตำพอกแผล แก้อาการบวม อักเสบ เป็นไม้ล้มลุก
ที่มีชื่อเป็นสิริมงคลมาก ดังนั้นตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว
ชายไทยจึงนิยมปลูกพุทธรักษาเอาไว้ในบ้าน เพราะหมายความถึง
การมีพระพุทธเจ้าคอยคุ้มครองรักษาให้อยู่เย็นเป็นสุข
การปลูกต้นพุทธรักษานั้น
สมาชิกภายในบ้านสามารถปลูกได้หมด หรืออาจจะช่วยกันปลูกคนละไม้คนละมือก็ได้เช่นกัน
และยังจะช่วยให้สัมพันธภาพในครอบครัวแน่นแฟ้นขึ้นด้วย
ควรปลูกต้นพุทธรักษาเอาไว้ทางทิศตะวันตก
ต้นพุทธรักษา จะได้คอยปกป้องคุ้มครองครอบครัวให้แคล้วคลาดจากเรื่องร้าย
วันพุธเป็นวันที่เหมาะสำหรับการปลูกต้นไม้ชนิดนี้มากที่สุด
เพราะคนโบราณเชื่อว่า หากต้องการปลูกต้นไม้ เพื่อยึดเอามงคล
จากความสวยงามของดอกไม้ ก็ควรจะปลุกวันพุธ เพื่อที่ต้นไม้นั้น
จะได้ออกดอกบานสะพรั่งอยู่เสมอ และเป็นสิริมงคลเสริมส่งดวงชะตาให้รุ่งโรจน์ลักษณะทั่วไปพุทรักษา
พุทธรักษาเป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อนอวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า
มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย
ลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้นโตประมาณ
2-4 เซนติเมตร
ใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลม ขอบใบเรียบ
กลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ้งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อนสลับกัน
ขนาดใบกว้างประมาณ 10-15 เซนติเมตร ยาวประมาณ 25-35 เซนติเมตร
ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น ช่อดอกยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ประกอบด้วยดอก 8-10 ดอก และมีกลีบดอกบางนิ่ม
ขนาดของดอกและสีสรรแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์ การเป็นมงคลต้นพุทธรักษา
คนโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นพุทธรักษาไว้ประจำบ้านจะช่วยคุ้มครอง
ป้องกันอันตรายแก่บ้านและผู้อาศัยได้ เพราะพุทธรักษาเป็นพรรณไม้ที่คนโบราณเชื่อว่า
มีพระเจ้าคุ้มครองรักษาให้มีความสงบสุข คือเป็นไม้มงคลนั่นเอง
ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปปลูกพุทรักษา เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย
ควรปลูกต้นพุทธรักษาไว้ทางทิศตะวันตก ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ
เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เอาประโยชน์ทั่วไปทางดอกให้ปลูกในวันพุธ

ประโยชน์
: ดอกตำพอกห้ามเลือด รักษาแผลหนอง
ใบแก้อาการจุกเสียด แก้ท้องเสีย แก้อาเจียน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Canna generalis
ตระกูล CANNACEAE
ถิ่นกำเนิด หมู่เกาะฮาวาย

พุทธรักษา นิยมปลูก 2
วิธี
1. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน
ถ้าปลูกในพื้นที่ขนาดใหญ่ควรใช้แปลงปลูกขนาด 2 x 10 เมตร
โดยการยกร่องคล้ายแปลงปลูกผัก
การเตรียมดินใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 10-20 กิโลกรัม/แปลง ขนาดหลุมปลูก 30 x 30
x30 แต่ถ้าปลูกเพื่อประดับบ้าน
คนไทยโบราณนิยมปลูกไว้เป็นแนวรั้วบ้านหรือปลูกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ในพื้นที่ที่จำกัด
ขนาดหลุม
ปลูก 30 x 30 x 30 ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 1 ผสมดินปลูก
2. การปลูกในกระถางเพื่อประดับอาคารบ้านเรือน
ส่วนใหญ่ใช้เป็นดอกประดับภายนอก ควรใช้กระถางทรงสูง ขนาด 10-16 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก:แกลบผุ:ดินร่วนอัตรา1:1:1ผสมดินปลูกและควรเปลี่ยนกระถาง12ครั้งต่อปีเพราะการขยายตัวของหน่อ
แน่นเกินไป และเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่
แทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป การดูแลรักษาพุทธรักษา
แสง ชอบแสงรำไร
หรือแสงแดดจัดกลางแจ้ง

น้ำ
ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 3-5 วัน/ ครั้ง
ดิน
เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย
ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/กอ ปีละประมาณ 4-6 ครั้ง
การขยายพันธ์ นิยมขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ เพาะเมล็ด วิธีที่นิยมและได้ผลดี
การแยกหน่อ
โรคและแมลง ไม่ค่อยมีโรคที่เป็นปัญหา
ส่วนแมลงที่รบกวน ได้แก่ พวกเพลี้ยแป้งและเพลี้ยหอย ซึ่งจะพบมากในหน้าร้อน
การป้องกันกำจัด ฉีดพ่นด้วย
มาลาไธออนหรือไดอาซินอนถ้าหากกอมีขนาดใหญ่และทึบอาจใช้ยาดูดซึม จำพวกไซกอน
ละลายน้ำรด
ตามอัตราที่ระบุไว้ในฉลากก็ได้
เอกสารอ้างอิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น