ใครเคยมีความรู้สึกเช่นฉันบ้างหรือไม่ เคยสัมผัสจิตที่บริสุทธิ์ของสัตว์ที่เราเลี้ยงเช่น สุนัขที่บ้าน หรือแมว นก บางครั้งบางคนจะว่าเราจิตไม่ปกติคุยกับหมาแมว แต่จริงๆแล้วเท่าที่ฉันได้เคยเรียนถามพระอาจารย์ท่านว่า ทำไมพระอาจารย์ถึงคุยกับพวกเขารู้เรื่อง ท่านถึงเล่าให้ฟังในมุมมองของ
ธรรมะนะค่ะ เพราะที่วัดที่พระอาจารย์พำนักอยู่นั้นเลี้ยงโดยประมาณเกือบร้อยตัวกระมั่งค่ะ ท่านบอกว่า สรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกเราล้วนแล้วแต่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารเช่นเดียวกัน เหมือนวงล้อชีวิต วงล้อกรรมเช่นเดียวกันทุกชีวิตว่าใครทำความดี ภพภูมิหน้าไปเกิดเป็นอะไร ใครสร้างบาปไปเกิดเป็นอะไร ฉันเลยถามพระอาจารย์ท่านว่าทำบาปอะไรถึงได้เกิดมาเป็นควาย
ท่านกล่าวพวกที่ทำบาปฉ้อโกงผู้อื่นผู้ใดมักจะไปเกิดเป็นควายรับทุกข์ทรมานมากกว่าสัตว์อื่นใดเพราะได้แต่กินหญ้า ไม่สามารถกินข้าวที่ตนเองทำได้ เหมือนกับเขาไปฉ้อโกงผู้อื่นให้เดือดร้อนแสนสาหัสตนถึงได้รับกรรมเช่นนั้น ท่านจะเห็นว่าหากท่านได้เข้าใกล้ควายจะเห็นน้ำตาของเขาไหลตลอดนี่คือเรื่องจริง ฉันเคยลองและตั้งจิตมองเข้าไปที่ตาของเขาฉันใช้จิตสัมผัสและถามว่าท่านลำบากใช่ไหมเมื่อก่อนฉันไม่ทราบ อย่างเมื่อก่อนฉันเลี้ยงสุนัขคุยกับมัน มันก็เข้าใจเรานะ เพราะสุนัขมีสัมผัสที่6ไวต่อการรับรู้มากที่สุด อย่างสุนัขที่ฉันเลี้ยงทุกตัวในบ้านมันจะรู้ว่าฉันใจดีขนาดบ้านพี่ชายเขาเลี้ยง ร็อคไวเลอร์นะครั้งแรกที่ฉันเจอ พี่พาฉันไปแล้วบอกเดินใกล้ๆ แต่ฉันก็ส่งจิตสัมผัสให้เขา ว่าเราเป็นมิตรกันนะตั้งแต่นั้นมาฉันก็เล่นกับเขาได้ตลอด โดยปกติมันจะห่วงพี่ชายมากไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ด้วยซ้ำไป เมื่อฉันลองใช้จิตสัมผัสกับสัตว์ชนิดต่างๆ เราถึงรู้ว่า ที่ใครๆบอกศึกษาพลังจิตต้องใช้สมาธิที่แน่แน่ว และศึกษาอย่างจริงจัง แต่จริงๆแล้วดูเหมือนกับไม่ใช่แต่ก็ใช่บางสิ่งบางอย่างมันพิสูจน์ด้วยตาเปล่าไม่ได้แต่หากสามารถสัมผัสด้วยจิตใจของคุณเองได้
ลองตั้งจิตคิดดีทำดีกับผู้อื่นหรือ สัตว์ต่างๆที่เราไม่ชอบก็ได้ ลองทำบุญใส่บาตรแล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลกับสัตว์ชนิดนั้น แล้วฉันก็ลองทำจิตให้นิ่งมีสมาธิอโหสิกรรมกับเขา เราไม่รู้หรอกว่าอดีตเราทำอะไรกันไว้ ฉันคิดอย่างนั้นทุกครั้งและลองทำ ฉันเป็นคนที่ชอบพิสูจน์และทดสอบสิ่งที่ไม่สามารถบอกกับใครได้หรอกว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันเป็นจริงที่ได้เกิดขึ้นแล้ว มันอาจจะเคยเกิดขึ้นกับคุณผู้อ่านบ้างก็ได้นะค่ะ ดิฉันว่าทุกเรื่องมันสามารถเกิดขึ้นได้ ทุกเรื่องไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากอดีต ผสมผสานกับปัจจุบัน ฉันคิดว่าแล้วแต่ใครจะสนใจและใส่ใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเหล่านั้นได้ ยังมีเรื่องอะไรอีกมากมายในสังคม ในโลกใบนี้ที่เราไม่รู้หากเราสามารถแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ ความเห็น ความจำ ไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบันก็ตาม มันสามารถเกิดขึ้นได้หากตัวเราใช้วิจารณญาณไตร่ตรอง ใครเคยสังเกตรับรู้เกี่ยวกับในหลวงของเราบ้างไหมค่ะว่าทำไมท่านถึงต้องบอกพสกนิกรทุกคนให้รู้จักป่า รู้จักพอเพียง ใครเคยเข้าใจประโยคเหล่านี้อย่างลึกซึ้งกันจริงๆ ไม่เพียงว่าท่านสอนให้รู้จักใช้พอเพียง ลองแปลและศึกษาให้เข้าใจอย่างดีซิค่ะ ท่านจะหมายถึงให้พสกนิกรทุกคนรู้จักประมาณตนพอเพียงในสิ่งที่เรามีอยู่มันรวมถึง ความโลภของมนุษย์ที่ไม่รู้จักพอเพียงด้วยนะค่ะ ดูอย่างคนต่างจังหวัดนะ คนเหล่านี้จะถูกปลูกฝั่งทุกเรื่อง รู้กินรู้ใช้ รู้จักพอเพียงและพอใจในสิ่งที่ตนอยู่ รู้จักแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแพร่กันและกัน รู้จักอภัยซึ่งกันและกัน ฉันเคยดูรายการหลายรายการคนชนบทน่ารักในวิถีชีวิตของพวกเขา มันอาจจะไม่ไฮเทค ไฮโซ แต่พวกเขามีความสุข แต่มุมกลับอีกสังคมที่มีความเจริญ ทันสมัย อยู่บนการแข่งขันกันตั้งแต่ยังไม่เกิดก็มี ชีวิตของเขาเหล่านั้นจะสั้นมากกว่าคนชนบทด้วยซ้ำไป ท่านผู้อ่านว่าจริงไหมค่ะ หากเราใช้ชีวิตอย่างรอบคอบไม่ใช้หมายถึงว่าต้องระเบียบจ๋ัด หรือทุกตารางนิ้วไม่ใช่นะค่ะอย่างนั้นเขาเรียกอีกแบบหนึ่ง แต่การรู้จักพอเพียง มันรวมทั้งในด้านศาสตร์ และ ศิลป์เข้าด้วยกันทุกอย่าง เช่นการนำ
ธรรมะมาใช้ในชีวิตประจำวันของเราเพียงเรารักษาศีลได้ อาจจะไม่ทั้งหมดแต่ก็ยังดีกว่าเราไม่ทำนะค่ะ สิ่งที่อย่าลืมทำกันคือการสร้างความดีและทำดีต่อตนเองและผู้อื่นไว้เถอะค่ะ คิดดีทำดี มีสัมผัสที่ดีกับผู้อื่นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเราก็คือสัมผัสที่ดีที่ผู้อื่นมอบให้กับเราเช่นเดียวกันค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น