วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ความประทับใจ

สวัสดีค่ะเมื่อเช้าอีกเช่นเดียวกันตอนตี 5 จะเป็นเวลาประจำนะค่ะ ที่ฉันจะต้องชมรายการนี้ เป็นรายการที่คนรุ่นใหม่ทำขึ้นมาเกี่ยวกับผู้สูงอายุ ทุกตอนฉันประทับใจค่ะว่ายังมีคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เราท่านไม่ปล่อยตัวและเวลาของท่านให้เสียเปล่าท่านจะต้องมีเรื่องทำเพื่อตนเองและประโยชน์สุขของผู้อื่น เมื่อเช้าฉันได้ชมคุณตา 1 ท่านคุณอา 2 ท่านที่อยู่ในวัยที่แตกต่างกันด้านอายุแต่สิ่งที่ท่านเหมือนกันคือความคิดที่จะทำ เป็นคนที่เชียงใหม่ คุณตาคนนี้อายุ 90 ปีนะค่ะ ยังแข็งแรงมากๆ และคุณอาอีก 2ท่าน 67 กับ 61 ปีค่ะ ช่วยกันอนุรักษ์ของโบราณและจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นมา หลายๆอย่างมาจากคนบริจาคและท่านก็คอยบอกประวัติให้คนที่ชมฟัง หรือนักเรียนที่ต้องการทราบประวัติและนำไปเป็นข้อมูลทางการศึกษาท่านก็จะนั่งเล่าให้ฟัง น่ารักมากๆ หากฉันมีโอกาสฉันจะขึ้นไปชมสักครั้งหนึ่ง ไม่ใช่เฉพาะท่านทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นแล้วนะค่ะ ท่านยังคงซึ่งข้อธรรมะไว้สอนผู้คนเหล่านั้นให้อีกด้วย บวกกับการดูแลร่างกายของคนที่มีอายุมากๆ เมื่อเช้าฉันได้ข้อคิดมากมายสำหรับตัวฉันเลยว่า ขนาดคุณตาท่านอายุมากๆท่านยังคิดทำ แล้วเราหละความคิดมีโครงการมากมายจะทำ

 ทำไมไม่เริ่มสักทีรออะไร ในความคิดของฉันคิดเสมอ เหมือนอย่างที่ฉันเริ่มต้นเขียนบทความเผยแพร่ตอนนี้ เมื่อย้อนมาถึงตอนนี้ฉันยังไม่ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อ2ปีฉันไปพบกับอะไร เพื่อนสนิทของฉันพาไปสถานที่แห่งหนึ่งอยู่ที่ต่างจังหวัด เพื่อนของฉันทุ่มสุดตัวกับที่นี่เพราะคุณแม่ของเธอหายจากมะเร็ง เธอจะไปทำบุญเป็นประจำ บังเอิญจนได้ ด้วยบุญที่ฉันทำกับใครบางคนหรือกับทุกคนที่นั่น ฉันได้มีโอกาสได้ไปทั้งๆที่ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะได้ไปที่จังหวัดนี้ด้วยซ้ำ เพื่อนบอกบุญให้ฉันช่วยดูแลงานสร้างห้องน้ำถวายพระอาจารย์เพื่อกุศล ฉันได้ไปคลุกคลีกับคุณป้าผู้ใจดีคนหนึ่งและพี่ๆ รวมถึงพระอาจารย์ทุกรูปที่นั่น ปกติฉันว่าตัวของฉันไม่ค่อยศรัทธาพระสงฆ์ในการทำบุญสักเท่าไหร่ เพราะปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจไปหมด แต่เมื่อฉันได้สัมผัสกับพระนักปฏิบัติจริงๆเข้าฉันเริ่มศรัทธาและอยากช่วยเหลือ นั่นคือจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ของฉันเริ่ม ฉันเริ่มทำบุญมากขึ้น ศึกษาพระธรรมมากขึ้น และสิ่งที่สำคัญฉันได้รับรู้ว่าพระต่างจังหวัดเป็นพระนักปฏิบัติจริงๆ ทำงานทุกอย่างเหมือนพวกเรานี้เอง แต่สิ่งที่ท่านไปจำพรรษาต่างจังหวัดเพราะความสงบในการทำสมาธิและศึกษาธรรมะอย่างละวางแล้วทุกอย่าง ที่ฉันต้องบอกอย่างนี้เพราะที่ฉันทราบ พระอาจารย์ทุกรูปเป็นคนกรุงเทพฯส่วนใหญ่ แต่มีจิตมุ่งมั่นที่จะไปจำพรรษาที่ต่างจังหวัดเพราะความที่ท่านต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เช่นเดียวกัน ฉันไปทีไร จะเห็นท่านทำงานกันตลอด ร่วมถึงทุกคนที่นั่นด้วย
 นั้นคือสิ่งที่ฉันตั้งจิตภาวนากับตนเองว่า หากมีสิ่งใดที่ฉันพอช่วยเหลือไม่ว่าจะด้านใดได้ ฉันจะแบ่งปันสิ่งเหล่านี้ไปให้ได้ วิถีทางของฉันหักเหจากเวลาที่ว่างจะได้เดินช็อปปิ้ง ฉันก็สละไปวัดทำประโยชน์ให้ที่นั่นบ้าง ทั้งๆที่ฉันไม่เคยขับรถไปต่างจังหวัดเองเลย ฉันก็ไป ท่านผู้อ่านหละค่ะ ลองเปลี่ยนมุมชีวิตของตนเองหรือยัง ตัวของผู้เขียนได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับชีวิต 1 ใช้เงินฟุ่มเฟือยน้อยลงนำเงินไปสร้างประโยชน์มากขึ้น ผลที่ได้รับครอบครัวเรามีความสุขอย่างไรหรือค่ะ ทุกคนมีความสุขที่ตัวของฉันเปลี่ยนไปเพราะเขาเห็นเราไม่เป็นทุกข์ก็ทำให้คนในครอบครัวไม่มีความทุกข์ไปด้วย เพราะทุกครั้งที่ฉันไปทำบุญกับมาทุกคนก็โอเค แต่หากเราไปที่อื่นเขาก็จะมีเรื่องกังวลไปต่างๆนานา ถูกต้องไหม ทุกวันนี้ถึงแม้ฉันจะเหนื่อยแต่ฉันมีความสุข เช่นเดียวกับภาพของชายวัยสูงอายุที่ฉันได้ชมจากรายการเมื่อเช้าบนใบหน้าของท่านเหล่านี้นมีความสุขมากๆค่ะ ฉันเชื่อนะค่ะ ว่าความสุขไม่อยูไกลตัวเราหรอกหากเราต้องการจะทำให้เรามีความสุขในจิตใจลึกๆและอิ่มเอิบในบั้นปลายชีวิตของเราได้นะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น