วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554

ต้นไม้และอาหาร

รับอรุณวันใหม่ที่สดชื่น สวัสดีค่ะ เมื่อเช้านี้อากาศที่บ้านสดชื่นเย็นนิดๆค่ะ วันนี้ผู้เขียนมีอะไรมาฝากเล็กน้อยค่ะ เชื่อไหมค่ะ อากาศที่สดชื่น ผสมกับธรรมชาติของต้นไม้ภายในบ้านก็ทำให้เรารู้สึกสบายตัว สบายใจแล้วนะค่ะ ผู้เขียนเชื่อค่ะว่าธรรมชาติสามารถรักษาร่างกาย และชีวิตของมนุษย์ให้ยังยืนได้นานกว่า การที่เราได้รับสารพิษ และมลภาวะในกรุงเทพฯ บ้านของผู้เขียนไม่ได้อยู่ต่างจังหวัดค่ะ กรุงเทพฯนี่เองแต่บังเอิญที่บ้านชอบปลูกต้นไม้แล้วอยู่ในหมู่บ้านลึกหน่อย แต่อากาศยังสดชื่นอยู่ค่ะยามเช้า เหมือนที่ๆแห่งหนึ่งที่เคยไปคือต่างจังหวัด เช้ามาได้รับอากาศที่สดชื่นก็เหมือนกับเราได้รับอาหารทางร่างกายชนิดหนึ่งนะค่ะ ผู้เขียนมักจะตื่นตี 4 ทุกวันค่ะ เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้วเพราะคุณยายท่านฝึกให้ตื่นแต่เช้า พอนานๆไปก็จะชินค่ะ ไม่ว่าจะไปไหนนะค่ะ บางทีก็ทราบว่าไปเที่ยวก็ยังอดไม่ได้ที่ต้องตื่นเช้า ออกมา jocking นะค่ะ เพื่อนคนอื่นๆเขายังนอนกัน ฉันคิดว่าฉันซน ตื่นมาวิ่ง และออกกำลังกาย เรามากล่าวถึงเรื่องต้นไม้นะค่ะ โบราณบอกว่าต้นไม้สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บของมนุษย์ได้ทีแรกผู้เขียนไม่ค่อยเชื่อค่ะ แต่ก็ลองดูกับคุณแม่ท่าน เพราะคุณแม่ท่านเป็นโรคความดันสูง


ฉันเริ่มหางานต้นไม้ให้ท่านทำเพราะท่านชอบอยู่แล้ว สรรหาต้นไม้แปลกๆมาให้ท่านได้ใช้เวลาอยู่กับต้นไม้ คุณเชื่อหรือไม่ว่า ตอนนี้ท่านไม่มีอาการของโรคแล้ว ท่านแข็งแรงขึ้นไม่มีอาการหน้ามืด หรือโรคความดันอีก แต่ท่านจะติดอยู่เรื่องหนึ่งคือนอนดึกดูรายการต่างๆ แต่ก็ยังไม่เป็นแล้ว ท่านสดชื่นขึ้นเมื่อท่านได้ใช้เวลาอยู่กับต้นไม้ ตัวผู้เขียนเองเชื่อนะค่ะว่าธรรมชาติของสิ่งแวดล้อมทำให้สุขภาพของคนดี หากท่านผู้อ่านไม่มีเวลา หรือไม่มีต้นไม้ที่บ้าน ลองหาสถานที่พักผ่อน สวนหย่อมออกกำลังกายก็จะดีนะค่ะ หรือไม่มีบริเวณก็ปลูกต้นไม้ไว้ในกระถางก็ได้ค่ะ นำเวลาว่างมาศึกษาเรียนรู้ชีวิตของต้นไม้แต่ละชนิดดูก็เป็นประโยชน์ต่อตนเองนะค่ะ เท่าที่ผู้เขียนเคยดูรายการและจากประสบการณ์ที่พบเห็นผู้สูงอายุหรือคนที่ชอบต้นไม้มักจะไม่แก่และมีสุขภาพแข็งแรงมากๆ เคยลองเปรียบเทียบแล้ว และลองสังเกตการรับประทานอีกอย่างคนที่อายุยืนๆมักจะทานอาหารไม่เหมือนคนรุ่นใหม่ที่มีแต่ยา เท่าที่เห็นก็จากคุณยายของตัวผู้เขียนเอง ท่านจะทานผักต้ม ปลาทู น้ำพริก ไข่ แกงส้ม ที่หลีกเลี่ยงกะทิด้วย และสัตว์จำพวก หมู เนื้อ ไก่ อาหารทะเลก็ไม่ทานเลย ท่านมีอายุยืนถึง 99 ปีก็สิ้นอายุขัยของท่าน และฉันก็เฝ้ามองและศึกษาชีวิตของคนที่มีอายุยืนท่านทั้งหลายเหล่านั้นดำรงชีวิตเช่นไร ร้อยละ90 ท่านทานอาหารคล้ายๆคุณยายฉันกันทั้งนั้น
 ฉันจึงได้บทสรุปว่าอาหารจำพวกนี้สามารถหล่อเลี้ยงชีวิตของมนุษย์ให้ยืนยาวได้จริงและปลอดโรคร้ายๆที่จะเกิดขึ้นภายในร่างกายเราด้วย หากคุณผู้อ่านต้องการทดสอบสิ่งเหล่านี้ ลองมองย้อนอดีตหรือภาพของผู้คนที่สูงอายุและพลิกประวัติของท่านเหล่านั้นดูซิค่ะ ฉันเชื่อว่าคุณต้องพบกับสิ่งมหัศจรรย์เกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน ผู้เขียนคิดว่า นอกจากจะเป็นการใช้ธรรมชาติของต้นไม้ในการดำรงรักษาชีวิตให้ยืนยาว อาหารก็มีส่วนทำให้มนุษย์มีชีวิตที่ยืนยาวและปลอดโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งก็คือ สุขภาพจิตที่ดีงาม และพึ่งปฏิบัติตนให้เป็นคนดี แบ่งปันความดี และบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ด้วยนะค่ะที่จะทำให้ร่างกายและชีวิตของมนุษย์มีความสุขและสมบูรณ์และมีค่ามากมายมหาศาล นอกเหนือจากเงินทองที่มีอยู่ ใช่หรือไม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น