วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

ความทรงจำที่เลื่อนลาง

 เบิกฟ้ารับอรุณวันใหม่ที่สดใสค่ะ เช้านี้ท้องฟ้าสีทองใสกระจ่าง พระอาทิตย์กลมโตสว่างส่องไปทั่วฟ้า


 เมื่อวานนี้ผู้เขียนได้ลงบทความเกี่ยวกับเรื่องกล้วยๆ ที่สามารถบำรุงสมองให้มี memory ที่แม่นยำ บังเอิญเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ตอนเย็นๆ ผู้เขียนได้คุยกับเพื่อนถึงเรื่องความจำที่ดี เขาปรึกษาว่าทำไมเขาอายุยังไม่ถึง40ทำไมชอบลืมแล้ว ลืมนั้นลืมนี้ ผู้เขียนก็บอกว่า หากเรามีความรู้สึกเช่นนั้น ก็ควรหาวิธีแก้ไข ใช้วิธีจดบันทึกไว้ก็ได้ค่ะ เพื่อจะได้ฝึกความทรงจำไปในตัว แต่หากเราเป็นมานานแล้วจะหาทางออกเช่นไร ก็ใช้การจดบันทึกไว้ หาสมุดเล่มเล็กๆสักเล่มหนึ่งจดไว้หากเราไม่ชอบจำก็จดไว้ เพื่อเตือนเรา เพราะมนุษย์ไม่ได้มีมันสมองที่ดีในการจดจำทุกคน ผู้เขียนบอกกับเพื่อนแต่สิ่งที่จะแก้ไขตัวเราเองได้ก็คือวิธีนี้ ส่วนคนที่อายุ40ขึ้นไปเริ่มมีความทรงจำน้อยลงก็ควรหาอาหารบำรุงสมองไว้เพื่อไม่ให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคความจำเสื่อม หลายๆคนมักจะเป็นค่ะ บางคนก็เป็นประเภทไม่จำ พอฝึกไม่จดจำไปเรื่อยๆ มันก็จะเริ่มเข้าภาวะลืมไปเลยนะค่ะ บางคนก็จำทีละเรื่องสมองไม่รับก็มีค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์เราไม่สามารถไปบังคับให้เขาจดจำอะไรได้ทุกคน แต่หากมีคนที่ต้องการหาทางแก้ไขสิ่งเหล่านี้ ต้องการให้ตนเองมีความทรงจำที่ดี ผู้เขียนสามารถที่จะบอกคำแนะนำให้ได้นะค่ะ
1.ทานอาหาร ผัก ผลไม้ ที่มีประโยชน์ต่อเนื้อเยื่อสมอง โดยเฉพาะปลาทานได้มากเท่าไหร่ยิ่งดีค่ะ


2.ค่อยๆจดบันทึกในสิ่งที่ตนเองจะจำอย่างเช่น อยากจำเบอร์โทรศัพท์ได้อย่างแม่นยำ คุณผู้อ่านก็สามารถจดบันทึกเอาไว้เขียนตัวใหญ่ๆและเก็บไว้ในที่เราเห็นได้ชัด
3.หากเราต้องการจำเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อ3ปีก่อนได้ คุณผู้อ่านเริ่มนะวันนี้เลยนะค่ะ เก็บภาพความทรงจำหรือสิ่งที่ประทับใจ หาสมุดบันทึกเล่มเล็กๆบันทึกไว้ ตัวผู้เขียนเองทำอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ
สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนสามารถบอกกับคุณผู้อ่านได้คือ ภาพความทรงจำเมื่อตอนที่ผู้เขียนอายุได้ 3 ขวบภาพที่ผู้เขียนโดนสุนัขกัด ภาพนั้นยังจะได้เสมอค่ะ ผสมผสานกับรายละเอียดที่คุณพ่อคุณแม่เล่าให้ฟังเราก็เริ่มจดบันทึกไว้ ลองทำดูนะค่ะ
4.สิ่งที่ขาดไม่ได้ควรออกกำลังกายด้วยนะค่ะ


เรามากล่าวถึงเรื่องความจำที่ดี ผู้เขียนเชื่อจริงๆนะค่ะว่าคนสมัยโบราณ รุ่นคุณปู่คุณย่า คุณพ่อคุณแม่เรานั้นท่านมีความจำเป็นเลิศจริงๆ อย่างที่เคยเราไว้ในบทความที่แล้วว่าคุณยายของฉันอายุ99ปีท่านมีความจำดีมากๆ พร้อมสมาชิกในครอบครัวของเราก็เป็นเช่นนั้น เมื่อสัปดาห์ก่อนตัวผู้เขียนได้พูดคุยกับคุณป้าท่านหนึ่ง ท่านอายุ70ปีเท่านั้นเริ่มมีความจำที่ถดถอยและสิ่งที่สำคัญคือระบบประสาทหูท่านเริ่มไม่ดีคือพูดไม่ค่อยได้ยินแล้ว
บางทีเราพูดเรื่องนี้ท่านตอบอีกเรื่องหนึ่ง ตัวผู้เขียนเลยเก็บข้อมูลนี้มาวิเคราะห์ว่าสาเหตุของผู้สูงอายุเริ่มต้นบางคนอายุ 65 ปีขึ้นบางท่านทำไมถึงมีอาการของความทรงจำน้อยลง และระบบประสาทหูถึงไม่ได้ยิน ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้เก็บข้อมูลมาจากคุณป้าท่านนี้ก็คือ ท่านเป็นเบาหวานผู้เขียนเลยนึกถึงเมื่อตอนที่คุณพ่อเป็นเบาหวานแล้วคุณหมอบอกว่ามันขึ้นตาของท่านจากการที่คุณหมอท่านรักษาตอนนั้น ก็เลยค้นหาดูว่าเมื่อเป็นโรคนี้แล้วอาการแทรกซ้อนจะมีหลายโรคมากค่ะ ต่อมาก็เรื่องอาหารที่ท่านรับประทานท่านจะทานอาหารรสจัดมากๆ ซึ่งผู้เขียนก็นำมาเปรียบเทียบระหว่างคนที่ท่านอาหารแต่ละชนิดดู มักจะเกิดจากการทานผัก ผลไม้ด้วย คุณป้าท่านนี้จะไม่ชอบทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว จะทานรสหวานเสมอ
สิ่งที่สำคัญท่านบอกว่าตอนท่านเด็กๆชอบตะโกนพูดกันและก็จะชินกับเสียงดังๆมาตลอดมันก็ทำให้ระบบประสาทหูทำงานมากขึ้น ตัวผู้เขียนก็ยังไม่เข้าใจจริงๆกับเรื่องนี้ ไว้หากมีโอกาสที่จะหาข้อมูลได้จากคุณหมออายุรกรรมที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของตัวผู้เขียนได้จะนำมาบอกกล่าวกันนะค่ะ อย่างน้อยเราก็จะได้เข้าใจผู้สูงอายุในบ้านเราได้ดีมากขึ้นนะค่ะ ท่านเองรวมถึงตัวผู้เขียนเองก็คงต้องเตรียมไว้ให้ตนเองด้วยเพราะทุกคนก็ต้องผ่านอายุตรงนั้นเช่นกันใช่ไหมค่ะ รับรองฉบับหน้าได้ข้อมูลที่แท้จริงว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้ ระบบประสาทหู และประสาทสมองของผู้สูงอายุในปัจจุบันเริ่มน้อยลง และวิธีการแก้ไขจะทำอย่างไรกันนะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น